GTB รับงานผลิตบอยเลอร์ฯอย่างต่อเนื่อง

13 ก.ย. 2560 | 14:23 น.
บมจ.เจตาแบค เผยเซ็นสัญญารับงานผลิตบอยเลอร์ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง มั่นใจช่วยเสริมรายได้อย่างดี ครึ่งปีหลังมีมูลค่างานในมือมากกว่า 1,000 ล้านบาท มั่นใจยอดขายปีนี้เติบโตตามเป้า

[caption id="attachment_207758" align="aligncenter" width="336"] นายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ นายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์[/caption]

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจตาแบค จำกัด(มหาชน)”GTB” ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำ(Steam Boiler) ระบบเผาไหม้ (Combustion System) งานวิศวกรรมพลังงานความร้อน (Thermal Energy Engineering) อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และงานบริการด้านเครื่องกำเนิดไอน้ำ เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทฯยังได้ทำการเซ็นสัญญาผลิตและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ๆแทบทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวลและSPP, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี, กลุ่มยางและยานยนต์, กลุ่มกระดาษและสิ่งทอ, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง, กลุ่มโรงไม้และโรงเหล็ก, กลุ่มโรงแรมและโรงพยาบาล เป็นต้น ดันให้บริษัทมีรายได้รวมกว่าพันล้านบาท และจะสามารถรับรู้รายได้ดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า

ขณะที่แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงหาโอกาสในการรับงานอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มอุตสาหกรรมที่บริษัทมองว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีความคืบหน้าของการผลิตและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ดำเนินการไปแล้วกว่า 60% ซึ่งงานดังกล่าวเป็นการผลิตและติดตั้งบอยเลอร์ประเภท Biomass Steam Boiler (Para Wood Chip) ของบริษัท บางสวรรค์กรีน จำกัด จ.สุราษฏร์ธานี  กำหนดระยะเวลา 12 เดือนหลังจากลงนามในสัญญา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและทดสอบ(Test run) ประมาณกลางเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่อีก 2 โครงการเป็นของบริษัท ออสการ์ เซฟ เดอะเวิลด์ จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี เป็นการผลิตและติดตั้งเครื่องกำเนิดไอน้ำประเภท VSPP  6 MWe., 9.9 MWe. และ 9.9 MWe. โครงการ 1 และ โครงการ 2 ระยะเวลาการผลิต และติดตั้ง 14 เดือนหลังจากลงนามในสัญญา โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งพร้อมทดสอบการทำงานของเครื่องได้ประมาณเดือนเมษายนปีหน้า ทำให้บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการนี้ภายในปี 2560 ต่อเนื่องไปถึงปี 2561

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 ล่าสุด บริษัทฯได้สั่งซื้อและติดตั้งเครื่องจักรรุ่นใหม่ ระบบ CNC ( Computer Numerical Control )  พร้อมขยายพื้นที่ production ของโรงงานระยองเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้การทำงานในช่วงครึ่งปีหลังมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จากงานที่เริ่มทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมูลค่างานในมือ (Backlog)ที่รอรับรู้รายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท รวมทั้งงานโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใกล้จะแล้วเสร็จตามที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้บริษัทเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถมีเปอร์เซ็นต์การเติบโตของยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1