‘ธนชาต’สปีดโมบายแอพ
ธนชาต เร่งพัฒนาโมบายแอพพลิเคชัน หวัง 2-3 ปี ยอดคนใช้แตะ 3-4 ล้านราย ทุ่มงบหลักร้อยล้านบาท วางโครงสร้างดิจิตอล เผยกำลังทดสอบ QR Code คาดเดือนพ.ย.นี้ออกจาก Sandbox เล็งต่อยอด QR Credit Transfer ต้นปีหน้าตัดผ่านเดบิต-เครดิต
นายสุทัต จิตมั่นคงสุข รองกรรมการผู้จัดการผู้บริหาร ธุรกิจสายงานดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตอนนี้ธนาคารอยู่ระหว่างเร่งพัฒนา Mobile Application ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอลที่เน้นเรื่องของความสะดวกรวดเร็ว คล่องตัว ใช้งานง่าย และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันกับพฤติกรรมผู้ใช้งาน แม้ว่าโมบายแอพพลิเคชันของธนาคารธนชาตเพิ่งจะเริ่มได้ไม่นาน แต่ก็มีอัตราการเติบโตค่อนข้างดี โดยภายหลังจากมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ธนาคารตั้งเป้าฐานลูกค้าหรือยอดผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นเป็น 3-4 ล้านรายภายใน 2-3 ปี
นอกจากนี้ธนาคารกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบการชำระเงินและโอนเงินด้วย QR Code มาตรฐานตามแผนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในสนามทดลองนวัตกรรมการเงิน หรือ Regulatory Sandbox ภายใต้นวัตกรรม “The Slimmest Bank” ช่องทางการรับเงินที่บางที่สุด พื้นที่ทดลองจะอยู่ในศูนย์การค้ามาบุญครอง หรือ MBK เสรีเซ็นเตอร์ เดอะไนน์ เป็นต้น
การทดลองในเบื้องต้นจะทดลองในร้านค้าเล็กๆ และจะเริ่มทยอยจับคู่ค้าของร้านค้าด้วย เบื้องต้นจะเริ่มทดลองร้านค้าจำนวน 1,000 ร้านค้า คาดว่าจะสามารถออกจากการทดสอบใน Sandbox ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ภายหลังจาก QR Code มาตรฐาน สามารถออกจาก Sandbox ธนาคารจะเริ่มทดสอบไปสู่ QR Credit Transfer หรือการชำระเงินหรือโอนเงินผ่านการหักบัญชีบัตรเดบิตและบัตรเครดิตต่อไป คาดว่าน่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในต้นปี 2561 ซึ่งจากการพัฒนาดังกล่าว จะทำให้ธนาคารสามารถเดินตามแผนเป้าหมายได้ โดยจะมีฐานลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้นและเชื่อมโยงในทุกผลิตภัณฑ์ ทั้งในส่วนของฐานลูกค้า เช่าซื้อกว่า 1.5 ล้านราย และคู่ค้าอีก 5 หมื่นราย
ส่วนงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาระบบดังกล่าวนั้น จะอยู่ในหลัก 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณเพื่อใช้ในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของธนาคารทุกโปรเจ็กต์เพื่อให้สอดรับกับโครงการพัฒนาระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ของรัฐบาล ส่วนการชำระเงินและโอนเงินด้วย QR Code เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์การพัฒนา ซึ่งหลังจากนี้ธนาคารธนชาตจะมีโครงการทยอยออกมาตามทิศทางธุรกิจแบงกิ้งในยุคดิจิตอล
อย่างไรก็ตามภาพรวมธุรกิจธนาคารในปัจจุบันจะเห็นภาพการแข่งขันในเรื่องของโมบายแอพพลิเคชัน โดยเฉพาะการแข่งขันในรูปแบบการให้บริการที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลูกค้าและพฤติกรรมลูกค้ามากขึ้น จึงเห็นความร่วมมือระหว่างธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยีการเงิน เช่น Alipay, Wechat เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560
นายสุทัต จิตมั่นคงสุข รองกรรมการผู้จัดการผู้บริหาร ธุรกิจสายงานดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตอนนี้ธนาคารอยู่ระหว่างเร่งพัฒนา Mobile Application ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอลที่เน้นเรื่องของความสะดวกรวดเร็ว คล่องตัว ใช้งานง่าย และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันกับพฤติกรรมผู้ใช้งาน แม้ว่าโมบายแอพพลิเคชันของธนาคารธนชาตเพิ่งจะเริ่มได้ไม่นาน แต่ก็มีอัตราการเติบโตค่อนข้างดี โดยภายหลังจากมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ธนาคารตั้งเป้าฐานลูกค้าหรือยอดผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นเป็น 3-4 ล้านรายภายใน 2-3 ปี
การทดลองในเบื้องต้นจะทดลองในร้านค้าเล็กๆ และจะเริ่มทยอยจับคู่ค้าของร้านค้าด้วย เบื้องต้นจะเริ่มทดลองร้านค้าจำนวน 1,000 ร้านค้า คาดว่าจะสามารถออกจากการทดสอบใน Sandbox ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ภายหลังจาก QR Code มาตรฐาน สามารถออกจาก Sandbox ธนาคารจะเริ่มทดสอบไปสู่ QR Credit Transfer หรือการชำระเงินหรือโอนเงินผ่านการหักบัญชีบัตรเดบิตและบัตรเครดิตต่อไป คาดว่าน่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในต้นปี 2561 ซึ่งจากการพัฒนาดังกล่าว จะทำให้ธนาคารสามารถเดินตามแผนเป้าหมายได้ โดยจะมีฐานลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้นและเชื่อมโยงในทุกผลิตภัณฑ์ ทั้งในส่วนของฐานลูกค้า เช่าซื้อกว่า 1.5 ล้านราย และคู่ค้าอีก 5 หมื่นราย
อย่างไรก็ตามภาพรวมธุรกิจธนาคารในปัจจุบันจะเห็นภาพการแข่งขันในเรื่องของโมบายแอพพลิเคชัน โดยเฉพาะการแข่งขันในรูปแบบการให้บริการที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลูกค้าและพฤติกรรมลูกค้ามากขึ้น จึงเห็นความร่วมมือระหว่างธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยีการเงิน เช่น Alipay, Wechat เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560
