ATP30 มั่นใจรายได้โตไม่ต่ำกว่า15%

ATP30 กวาดงานลูกค้าใหม่-เก่า โชว์ Backlog 1,575 ล้านบาท มั่นใจรายได้ทั้งปีโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15% เผยเตรียมปรับโครงสร้างบริหารจัดการ ลดต้นทุนการดำเนินงาน ดันมาร์จิ้นทั้งปีแตะ 25% เดินหน้ายกระดับงานบริการคว้า ISO 39001:2012 พร้อมจัดอบรมนักขับ รองรับการเติบโต และความต้องการใช้งานรถรับส่งบุคลากร

[caption id="attachment_207686" align="aligncenter" width="503"] นายปิยะ เตชากูล[/caption]

นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทให้บริการลูกค้า 31 ราย โดยเป็นลูกค้ารายใหม่และเพิ่มจำนวนรถให้บริการกับฐานลูกค้าเดิม  ซึ่งการเพิ่มขึ้นของลูกค้าและปริมาณการบริการ ส่งผลให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,575 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ไปแล้ว 445 ล้านบาท คงเหลือสัญญาที่จะรับรู้รายได้อีกกว่า 1,130 ล้านบาท

นอกจากนี้ ATP30 ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าใหม่เพิ่มอีกหลายราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และจะเริ่มให้บริการและรับรู้รายได้ช่วงไตรมาส 1/61 เป็นต้นไป แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของลูกค้าดังกล่าว จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 15% อีกทั้งบริษัทมีการปรับโครงสร้างการบริหาร เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น 25% ในปีนี้

“การเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้าและความต้องการใช้บริการ ทำให้ ATP30 ต้องมีการยกระดับการดำเนินงานทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทได้รับ ISO 39001:2012 มาตรฐานการบริหารความปลอดภัยทางถนน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรถขนส่งคนรายแรกๆของประเทศที่ได้รับมาตรฐานดังกล่าว และขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาบุคลากรนักขับเพิ่มเติม เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งเป็นการตอกย้ำมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัท”นายปิยะ กล่าว

สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 163.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  18.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมที่ 145.22 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.34 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.52 ล้านบาท

ส่วนไตรมาส 2 ปี 2560 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 83.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.35 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 75.12 และบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.42 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.49% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิ 7.20 ล้านบาท  หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.58% และบริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 23.13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทมีกำไรขั้นต้น 18.38 ล้านบาท  หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 24.71%

ทั้งนี้รายได้เติบโตขึ้นจากการให้บริการเดินรถโดยสารรับส่งบุคลากรเพิ่มขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนในด้านต่างๆ ที่ดี ขณะที่อัตรากำไรสุทธิที่ลดลงนั้น เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายในปรับปรุงสภาพรถเพื่อให้บริการลูกค้าที่ต้องการใช้รถในระยะยาว และมีการลงทุนด้านระบบบริหารจัดการที่เป็นมาตรฐานสากลมาใช้ในการบริหารกิจการ