ปลัดหลากกระทรวง กับวิถีการทำงานหลากมิติ

16 ก.ย. 2560 | 11:20 น.
การถูกคำสั่งโยกย้าย ย้ายแล้วย้ายอีก เพราะทำงานไม่ถูกใจใครบางคน กลับกลายเป็นเรื่องดี กับคนที่ทำงานที่รู้จักมองโลก รู้จักการพัฒนาตัวเอง เพราะการได้ทำงานหลายที่ เรียนรู้งานในหลากหลายตำแหน่ง กลายเป็นการเติมเต็มความรู้ ที่ทำให้ปลัดกระทรวงพลังงาน "อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม" สามารถนำประสบการณ์ที่ได้ในแต่ละกระทรวงและแต่ละหน่วยงานที่เคยเข้าไปสัมผัส มาเติมเต็มความรู้ตัวเอง แล้วสร้างเป็นงานที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ด้วยมุมมองการบริหารที่หลากหลายมิติ

ในชีวิตราชการเกือบ 30 ปี ของ "ปลัด อารีพงศ์" มันคือประสบการณ์ชีวิต ที่มีความภาคภูมิใจ กับการทำงานในหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะต้องถูกโยกย้ายหลายครั้ง

[caption id="attachment_207424" align="aligncenter" width="400"] อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม[/caption]

ปลัดกระทรวงพลังงาน เล่าถึงจุดเริ่มต้นก่อนเข้ารับราชการว่า เรียนปริญญาตรี โท และเอก ที่ต่างประเทศมาตลอดกว่า 12 ปี และยังเคยเป็นอาจารย์ในต่างประเทศ แต่เขาก็ยังรักที่จะกลับมาทำงานในไทย พร้อมเข้ารับราชการเพื่อรับใช้ชาติ เพราะเชื่อมั่นว่า เป็นสิ่งที่ทำแล้วจะมีความภาคภูมิใจ และสนุก เขาจึงเริ่มรับราชการตั้งแต่ปี 2530 ที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ตามสายงานการเงินที่ได้ร่ำเรียนมา

"ตอนเริ่มทำงานครั้งแรกก็ตกใจ ได้รับเงินเดือนแค่ 4,000 กว่าบาท แต่ทุกวันนี้ก็ยังยืนยันว่าตัดสินใจถูก เป็นปลัดตอนอายุ 50 ทำอยู่ 3 ปี หลังจากนั้นด้วยเหตุการณ์ทางการเมือง ทำให้ถูกย้ายไปที่อื่น ด้วยเหตุผลการขยายวงเงินจำนำข้าว ซึ่งผมไม่เห็นด้วย เพราะถ้าขยายไปมากกว่านี้มันจะเกิดความเสียหาย ในการที่เป็นปลัดคลัง...ปลัดเป็นคนสุดท้ายของเรื่องเชิงนโยบาย เป็นคนสุดท้ายที่จะหยุดสิ่งที่ไม่ถูกต้อง...การถูกโยกย้ายมันคือ มรสุมในชีวิต มันกระทบจิตใจ แต่เราคิดว่าเราเดินไปในทางที่ถูกต้อง ถ้าเราจะภูมิใจในชีวิตต่อไป เราก็ต้องเดินแบบนี้"

แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบจิตใจ แต่"ปลัด อารีพงศ์" ไม่ได้จมอยู่กับความท้อแท้ ไม่ว่าจะเข้าไปรับหน้าที่ตรงไหน เข้าก็พร้อมเรียนรู้งานและทำอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา ปลัดพลังงาน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ความท้าทายในการเป็นราชการคือ งานที่ทำเพื่อส่วนรวม เพื่อแผ่นดิน การดำเนินการทั้งหลายเราต้องฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน การตัดสินใจแต่ละครั้งจะมีผลกระทบต่อประชาชน มันเป็นงานที่ท้าทายมาก ที่จะเดินไปในทิศทางที่ควรจะเป็น อย่างถูกต้อง จะทำอย่างไรให้ตรงไปตรงมา

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 ความรู้ในแต่ละจุดที่ได้เข้าไปทำงาน "ปลัดอารีพงศ์" นำมาร้อยเรียงเป็นคลังปัญญา ผสมผสานจนเกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารงานแต่ละจุดอย่างบูรณาการ..."มันเป็นสิ่งที่เราภูมิใจ พอทำสำเร็จ หัวใจก็พองโตทุกครั้ง"

เขาได้เรียนรู้เรื่องภาษี จากกระทรวงการคลัง หลักการของภาษีคือต้องเป็นกลาง เมื่อพลังงานราคาตก ก็ได้มาวางเรื่องภาษี ทำให้ภาษีเป็นกลาง การไปที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ก็ทำให้มองทะลุแนวทางในกระทรวงต่างๆ เพราะก.พ.ร. มีหน้าที่ไปทำเคพีไอ ในแต่ละกระทรวง ทำให้รู้ว่าแต่ละกระทรวงต้องขับเคลื่อนในด้านใดบ้าง การไปอยู่กระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา ก็ได้วางแผนยุทธศาสตร์ การมีโอกาสได้เข้าไปเรียนรู้แต่ละจุด ทำให้รู้ว่าเขาต้องขับเคลื่อนในด้านใดบ้าง แม้จะไม่รู้ได้ลึกซึ้ง แต่ก็ได้เห็นทิศทาง มันทำให้มีโอกาสได้เชื่อมต่อกับงานในจุดต่างๆ ได้อย่างบูรณาการ เห็นมุมมองในหลายมิติไม่ใช่แค่งานของกระทรวงพลังงานอย่างเดียว

"ปลัด อารีพงศ์" ย้ำว่า ปลัดเป็นคนสุดท้ายของเรื่องเชิงนโยบาย เป็นคนสุดท้ายที่จะหยุดสิ่งที่ไม่ถูกต้อง...ถึงแม้ผมจะผ่านอะไรมาเยอะ ก็กระทบจิตใจ แต่ในที่สุดท่านก็จะมีความภูมิใจ แม้จะผ่านมรสุมมาบางช่วง

ชีวิตราชการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของ "อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม" คือความภาคภูมิใจ กับการที่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ วันที่ 31 ตุลาคม 2560 คือวันเกษียณอายุ หลังจากนี้คือการพักผ่อน เดินทางท่องเที่ยวพร้อมภรรยาคู่ชีวิต แต่แน่นอน ความรู้ความสามารถที่ยังมีอยู่ ก็คงเข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรต่างๆ

วันนี้กระทรวงพลังงานวางรากฐานไปข้างหน้าไว้แล้วระดับหนึ่ง ต่อไปจะมีการปรับเรื่อยๆ เเพื่อให้เข้ากับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป โจทย์มันซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีภาคเอกชนเข้ามา มีพลังงานทดแทนรูปแบบต่างๆ ช่วงเปลี่ยนผ่านตรงนี้ ต้องดูแลให้ดี ไม่งั้นจะเป็นภาระต่อภาครัฐ นโยบายเชิงภาครัฐต้องไหวตัวเร็ว ให้สอดรับกับเทคโนโลยีและสถานการณ์ นี่คือ หน้าที่ของปลัดคนต่อไป ที่ต้องทำให้การเปลี่ยนผ่านราบรื่น ไม่เป็นภาระของภาครัฐ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1