สมรภูมิบ้านต่ำ5ล.ระอุ 2เดือนสุดท้ายปี60เปิดตัวกระหึ่ม4หมื่นหน่วย
2 นายกสมาคมอสังหาฯ ฟันธงโค้งท้ายปี 60 ดีเวลอปเปอร์ กระหนํ่าดันโครงการใหม่ออกสู่ตลาด นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรชี้เฉพาะกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ชิงเปิดตัวบ้าน-คอนโดฯออกขาย 30,000-40,000 หน่วย ด้าน “ประเสริฐ” เผยเดือนกันยายนบิ๊กแบรนด์แห่เปิดคอนโดฯมากกว่า 2 เดือนสุดท้าย
ช่วงโค้งท้ายไตรมาส 4 ปี 2560 นี้ เดือนตุลาคมประเทศไทยจะมีงานสำคัญของประเทศ จึงมีเวลาเพียง 2 เดือนที่สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดได้ ดังนั้นบริษัทพัฒนาที่ดินในตลาดหลักทรัพย์ฯต่างทยอยเปิดตัวโครงการ และกระหนํ่าอัดโปรโมชันช่วงชิงกำลังซื้อ
[caption id="attachment_195294" align="aligncenter" width="500"]
อธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร[/caption]
ต่อเรื่องนี้ นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะ เดือนพฤศจิกายนและธันวาคมช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2560 บริษัทพัฒนาที่ดินโดยเฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯต่างชิงเปิดตัวโครงการ ทั้งแนวราบและแนวสูงไม่ตํ่ากว่า 30,000-40,000 หน่วยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนนี้เป็น คอนโดมิเนียม 50% ราคาอยู่ที่ 1-5 ล้านบาท ซึ่งประเมินว่าตลาดกลุ่มนี้ยังไปได้ โดยเฉพาะตลาดระดับกลาง มีมากถึงกว่า 50% ซึ่งระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 ล้านบาท หรือ 3-8 ล้านบาทต่อหน่วย ที่มีกำลังซื้อและเข้าถึงสินเชื่อได้ แต่ติดปัญหาว่ากลุ่มนี้ค่อนข้างอ่อนไหวกับเหตุการณ์ต่างๆที่มากระทบ อาจถึงขั้นชะลอตัดสินใจออกไป
ขณะที่ตลาดระดับล่างมีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง แต่เข้าถึงสินเชื่อยาก ที่สำคัญมีปัญหาถูกปฏิเสธสินเชื่อ วนกลับให้ผู้ประกอบการขายใหม่ ส่วนกลุ่มระดับบนมีจำนวนจำกัดเพียง 10% และขณะนี้ความต้องการเริ่มทรงๆหรือลดลง อย่างไรก็ดีภาพรวมการเปิดตัวไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะ 2 เดือนสุดท้ายของปี จะสูงกว่าไตรมาสที่ 3 ถึง 50%
“นับจากนี้จะเห็นภาพการแข่งขันช่วงชิงกำลังซื้อกันอย่างสนุกมือจากการทุ่มงบอัดโปรโมชันที่หลากหลาย ที่หนีไม่พ้นคือสีสันของการลดราคาไม่เกิน 5% แต่บางค่ายอาจตั้งราคาขายไว้สูงกว่าราคาขายจริง แต่นำกลยุทธ์การลดราคาเป็นกระแสจูงใจ แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้ลดราคาแต่อย่างใด นอกจากราคาแล้ว ยังมีเรื่องของการแจกของแถม อาทิ เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ในบ้านต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่านับจากนี้ จะเห็นหลายๆ ค่ายทยอยออกแคมเปญออกมาแข่งขันกัน”
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมปัจจุบัน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังมีความต้องการแต่ลดลงจากปีก่อน ส่วนความต้องการบ้านแนวราบเพิ่มสูงขึ้น ส่วนต่างจังหวัดตลาดแนวราบขยายตัวมากขึ้นหากเทียบกับคอนโดมิเนียมที่ตลาดไม่ตอบรับ และไม่สามารถพัฒนาโครงการได้อีก
[caption id="attachment_141874" align="aligncenter" width="503"]
ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย[/caption]
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่าตลาดแนวราบและแนวสูง ปี 2560 ทั้งปี โตกว่าปี 2559 ประมาณ 5-10 % โดยเดือนกันยายนเป็นเดือนที่ผู้ประกอบการเปิดตัวคอนโดมิเนียมมากที่สุดเฉพาะค่ายใหญ่ รวมกว่า 10 โครงการ ในเดือนเดียว อาทิ ค่ายพฤกษาเปิด 2-3 โครงการทำเลเด่นคือพหลโยธิน-ประดิพัทธิ์ คอนโดมิเนียม 2 ชั้น ราคา 5.9 ล้านบาทต่อหน่วยซึ่งที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ยังมี ค่ายศุภาลัย 3-4 โครงการ อาทิ ทำเลเจริญนครรับรถไฟฟ้าสายสีทองของกทม. ค่าย ออริจิ้น 3-4 โครงการ ค่ายเอพี โครงการใหญ่ทำเลถนนวิทยุ มูลค่า 5,000-6,000 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม 2 เดือนสุดท้ายของปี 2560 ประเมินว่าไม่น่าจะเปิดตัวมาก เพราะต่างโหมเปิดตัวไปแล้วตั้งแต่กันยายน สำหรับตลาดที่มีกำลังซื้อจะเป็นตลาดกลางบน ซึ่งมีการเปิดตัวรองรับมากสุดราคาตารางเมตรละ 100,000 บาท
สำหรับตัวเลขการเปิดตัวโครงการในปี 2560 ครึ่งปีแรก 52,636 หน่วย มูลค่า 185,200 ล้านบาท และทั้งปี 2560 คาดว่าทั้งแนวราบและแนวสูง 101,433 หน่วย มูลค่า 362,000 ล้านบาท เทียบจากปีที่ผ่านมา เปิดตัว 102,078 หน่วย มูลค่า 368,027 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีปี 2559 ผู้ประกอบการเปิดโครงการใหม่ครึ่งปีแรก และครึ่งปีหลัง ไม่เปิดตัวโครงการใหม่แต่มุ่งระบายสต๊อกเก่าเพื่อรับมาตรการอสังหาริมทรัพย์ และมาเน้นเปิดตัวโครงการใหม่ต้นปี 2560 อย่างไรก็ดีช่วงโค้งสุดท้ายของปี จะมี การจัดงานมหกรรมบ้าน-คอนโดครั้งใหญ่ ที่จะกระหนํ่าแคมเปญในลักษณะขายปุ๊บแล้วหยุดทันที หรือหยุดเปิดโครงการ ซึ่งมหกรรมดังกล่าวจะเป็นปรอทวัดความคึกคักของอุตสาหกรรมอสังหาฯได้เป็นอย่างดี
สอดรับกับนายอัษฎา แก้วเขียว ประธานอำนวยการ-วิสซ์ดอม บริษัทแมกโนเลียควอลิตี้ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่นจำกัด สะท้อนว่า บริษัทมีแผนขยายตัวต่อเนื่องทั้งคอนโดมิเนียมและ แนวราบซึ่งเป็นทาวน์โฮม หลังเปิดตัวโครงการ วิสซ์ดอมอเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว อย่างไรก็ดี มองว่าตลาดคอนโดฯกลางบนไปได้ โดยเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560
ช่วงโค้งท้ายไตรมาส 4 ปี 2560 นี้ เดือนตุลาคมประเทศไทยจะมีงานสำคัญของประเทศ จึงมีเวลาเพียง 2 เดือนที่สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดได้ ดังนั้นบริษัทพัฒนาที่ดินในตลาดหลักทรัพย์ฯต่างทยอยเปิดตัวโครงการ และกระหนํ่าอัดโปรโมชันช่วงชิงกำลังซื้อ
[caption id="attachment_195294" align="aligncenter" width="500"]
ต่อเรื่องนี้ นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะ เดือนพฤศจิกายนและธันวาคมช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2560 บริษัทพัฒนาที่ดินโดยเฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯต่างชิงเปิดตัวโครงการ ทั้งแนวราบและแนวสูงไม่ตํ่ากว่า 30,000-40,000 หน่วยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนนี้เป็น คอนโดมิเนียม 50% ราคาอยู่ที่ 1-5 ล้านบาท ซึ่งประเมินว่าตลาดกลุ่มนี้ยังไปได้ โดยเฉพาะตลาดระดับกลาง มีมากถึงกว่า 50% ซึ่งระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 ล้านบาท หรือ 3-8 ล้านบาทต่อหน่วย ที่มีกำลังซื้อและเข้าถึงสินเชื่อได้ แต่ติดปัญหาว่ากลุ่มนี้ค่อนข้างอ่อนไหวกับเหตุการณ์ต่างๆที่มากระทบ อาจถึงขั้นชะลอตัดสินใจออกไป
ขณะที่ตลาดระดับล่างมีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง แต่เข้าถึงสินเชื่อยาก ที่สำคัญมีปัญหาถูกปฏิเสธสินเชื่อ วนกลับให้ผู้ประกอบการขายใหม่ ส่วนกลุ่มระดับบนมีจำนวนจำกัดเพียง 10% และขณะนี้ความต้องการเริ่มทรงๆหรือลดลง อย่างไรก็ดีภาพรวมการเปิดตัวไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะ 2 เดือนสุดท้ายของปี จะสูงกว่าไตรมาสที่ 3 ถึง 50%
“นับจากนี้จะเห็นภาพการแข่งขันช่วงชิงกำลังซื้อกันอย่างสนุกมือจากการทุ่มงบอัดโปรโมชันที่หลากหลาย ที่หนีไม่พ้นคือสีสันของการลดราคาไม่เกิน 5% แต่บางค่ายอาจตั้งราคาขายไว้สูงกว่าราคาขายจริง แต่นำกลยุทธ์การลดราคาเป็นกระแสจูงใจ แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้ลดราคาแต่อย่างใด นอกจากราคาแล้ว ยังมีเรื่องของการแจกของแถม อาทิ เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ในบ้านต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่านับจากนี้ จะเห็นหลายๆ ค่ายทยอยออกแคมเปญออกมาแข่งขันกัน”
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมปัจจุบัน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังมีความต้องการแต่ลดลงจากปีก่อน ส่วนความต้องการบ้านแนวราบเพิ่มสูงขึ้น ส่วนต่างจังหวัดตลาดแนวราบขยายตัวมากขึ้นหากเทียบกับคอนโดมิเนียมที่ตลาดไม่ตอบรับ และไม่สามารถพัฒนาโครงการได้อีก
[caption id="attachment_141874" align="aligncenter" width="503"]
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่าตลาดแนวราบและแนวสูง ปี 2560 ทั้งปี โตกว่าปี 2559 ประมาณ 5-10 % โดยเดือนกันยายนเป็นเดือนที่ผู้ประกอบการเปิดตัวคอนโดมิเนียมมากที่สุดเฉพาะค่ายใหญ่ รวมกว่า 10 โครงการ ในเดือนเดียว อาทิ ค่ายพฤกษาเปิด 2-3 โครงการทำเลเด่นคือพหลโยธิน-ประดิพัทธิ์ คอนโดมิเนียม 2 ชั้น ราคา 5.9 ล้านบาทต่อหน่วยซึ่งที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ยังมี ค่ายศุภาลัย 3-4 โครงการ อาทิ ทำเลเจริญนครรับรถไฟฟ้าสายสีทองของกทม. ค่าย ออริจิ้น 3-4 โครงการ ค่ายเอพี โครงการใหญ่ทำเลถนนวิทยุ มูลค่า 5,000-6,000 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม 2 เดือนสุดท้ายของปี 2560 ประเมินว่าไม่น่าจะเปิดตัวมาก เพราะต่างโหมเปิดตัวไปแล้วตั้งแต่กันยายน สำหรับตลาดที่มีกำลังซื้อจะเป็นตลาดกลางบน ซึ่งมีการเปิดตัวรองรับมากสุดราคาตารางเมตรละ 100,000 บาท
อย่างไรก็ดีปี 2559 ผู้ประกอบการเปิดโครงการใหม่ครึ่งปีแรก และครึ่งปีหลัง ไม่เปิดตัวโครงการใหม่แต่มุ่งระบายสต๊อกเก่าเพื่อรับมาตรการอสังหาริมทรัพย์ และมาเน้นเปิดตัวโครงการใหม่ต้นปี 2560 อย่างไรก็ดีช่วงโค้งสุดท้ายของปี จะมี การจัดงานมหกรรมบ้าน-คอนโดครั้งใหญ่ ที่จะกระหนํ่าแคมเปญในลักษณะขายปุ๊บแล้วหยุดทันที หรือหยุดเปิดโครงการ ซึ่งมหกรรมดังกล่าวจะเป็นปรอทวัดความคึกคักของอุตสาหกรรมอสังหาฯได้เป็นอย่างดี
สอดรับกับนายอัษฎา แก้วเขียว ประธานอำนวยการ-วิสซ์ดอม บริษัทแมกโนเลียควอลิตี้ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่นจำกัด สะท้อนว่า บริษัทมีแผนขยายตัวต่อเนื่องทั้งคอนโดมิเนียมและ แนวราบซึ่งเป็นทาวน์โฮม หลังเปิดตัวโครงการ วิสซ์ดอมอเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว อย่างไรก็ดี มองว่าตลาดคอนโดฯกลางบนไปได้ โดยเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560
