‘ยาริสเอทีฟ’เริ่มแรง ยันพ.ย.ปรับราคา-คาดไมเนอร์เชนจ์’อัพค่าตัว4หมื่น

โตโยต้า ยาริส เอทีฟ กระแสเริ่มแรงหลังเปิดตัวครึ่งเดือนขายทะลุ 1,000 คัน ยืนยันปรับราคาขายตามแผนเดิม ส่วน “ยาริส ตัวถังแฮตช์แบ็ก” เตรียมไมเนอร์เชนจ์ 14 กันยายน นี้ เพิ่มราคา 3-4 หมื่นบาท ด้านคู่แข่งอัดแคมเปญเด้งรับศึกใหญ่ และปลื้มยอดถึงสิงหาคมโตต่อเนื่อง

หลังโตโยต้าเสริมทัพ ยาริส เอทีฟ ตัวถังซีดาน โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา แบ่งการขายเป็น 5 รุ่นย่อยราคา 4.69-6.19 แสนบาท ซึ่งเป็นราคาแนะนำจนถึง วันที่ 31 ตุลาคมนี้

“ฐานยานยนต์” ตรวจสอบยอดขายในเดือนสิงหาคม พบว่า “ยาริส เอทีฟ” ส่งมอบรถไป 1,062 คัน(เริ่มส่งมอบ 25 ส.ค.) ขณะที่ “ยาริส แฮตช์แบ็ก” 1,251 คัน ซึ่งในรุ่นหลังถือว่าตํ่ากว่าปกติที่เคยขายเดือนละกว่า 2,000 คัน ส่วนหนึ่งมีผลมาจากการกินยอดขายกันเองระหว่างตัวถังซีดานที่เปิดตัวใหม่ และการเตรียมแนะนำโฉมไมเนอร์เชนจ์ ลงสู่ตลาดในวันที่ 14 กันยายนนี้อาจจะทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจ

ในช่วงการเปลี่ยนผ่านของยาริสในช่วงไตรมาส3 ยังถือเป็นโอกาสของคู่แข่งที่ออกโปรโมชันรับมืออย่างเต็มที่ เห็นได้จากมาสด้า 2 ซีดานและแฮตช์แบ็กในเดือนสิงหาคมขายได้รวม 2,800 คัน มากกว่า โตโยต้า ยาริส ทั้ง 2 ตัวถัง (2,313 คัน) ส่วนนิสสัน ที่มีทั้ง โน๊ต มาร์ช และอัลเมรา ขายได้รวม 2,780 คัน ด้านมิตซูบิชิ มิราจ แอททราจ รวมกว่า 2,000 คัน และซูซูกิ มีเซียสกับสวิฟท์ ทำยอดได้เกือบ 2,000 คัน

“ยอดขายมาสด้าในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เกินกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ด้วยตัวเลข 4,381 คัน เติบโต 23% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2559 โดยโมเดลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดยังเป็นมาสด้า2 มียอดขาย 2,800 คัน เติบโต 53% ขณะเดียวกันยังเป็นการขายเกิน 2,500 คันต่อเดือน เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันอีกด้วย” นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

นายอันตวน บาร์เตส กรรมการผู้จัดการใหญ่ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดขายนิสสันไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2560 (1 เม.ย.-30 มิ.ย. 60) ทำได้ 13,815 คัน เติบโต 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แบ่งเป็นกลุ่มอีโคคาร์ (มาร์ช อัลเมรา โน๊ต) 7,984 คัน, ปิกอัพ นาวารา 4,562 คัน, เอ็กซ์-เทรล 497 คัน และอื่นๆ 772 คัน

“กลุ่มอีโคคาร์มีสัดส่วนกว่า 50% จากยอดขายทั้งหมด ซึ่งเรายังต้องการพัฒนาให้ดีขึ้นไปมากกว่านี้ โดยอีโคคาร์และปิกอัพจะเป็นโปรดักต์สำคัญในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ถึง 2 หลักภายใน 3 ปีข้างหน้า(ปัจจุบันมี 7%)” นายบาร์เตส กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้คู่แข่งจะทำยอดขายได้เติบโตต่อเนื่อง แต่โตโยต้ายังยืนยันตามแผนเดิมว่า หลังวันที่ 31 ตุลาคมนี้ “ยาริส เอทีฟ” จะหมดโปรโมชันกับราคาแนะนำ พร้อมเปลี่ยนราคาขายใหม่ ซึ่งอาจจะเพิ่ม 3-4 หมื่นบาทแล้วแต่รุ่น แถมยังไม่มีแคมเปญส่งเสริมการขายออกมาเพิ่มเติม

สำหรับ เอทีฟ รุ่น S ราคา 6.19 แสนบาท รุ่น G 5.99 แสนบาท รุ่น E 5.49 แสนบาท รุ่น J 5.19 แสนบาท และรุ่น J ECO ราคา 4.69 แสนบาท

โดยยาริส เอทีฟ วางเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 86 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT-i มีระบบความปลอดภัยอย่าง ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเบรก ABS ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน พร้อมถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง เป็นมาตรฐานในทุกรุ่น

นอกจากนี้ ในส่วนของรุ่นพี่ “ยาริส แฮตช์แบ็ก” ที่เตรียมเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์อย่างเป็นทางการวันที่ 14 กันยายนนี้ ซึ่งแหล่งข่าวจากโตโยต้า ยังยืนยันว่า จะปรับหน้าตาให้สดใหม่ เพิ่มออพชันอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเต็มพิกัด และมีโอกาสที่จะปรับราคาขายขึ้นสูงสุด 4 หมื่นบาท

ขณะเดียวกันโตโยต้า ยังสื่อสารผ่านออนไลน์ ด้วยการเปิดให้ผู้ที่สนใจ “ยาริส ไมเนอร์เชนจ์” ลงทะเบียนเว็บไซต์ www.newyarisexclusiveparty.com เพื่อร่วมปาร์ตี้งานเปิดตัวในวันที่ 14 กันยายนนี้ พร้อมแจกเสื้อแจ๊กเกต500 ตัวและตั๋วชมภาพยนต์ 1,000 ใบ สนุกกับคอนเสิร์ตของวง mild และวง สมเกียรติ พร้อมสัมผัสรถยนต์อย่างใกล้ชิด โดยผู้ที่ร่วมปาร์ตี้ยังมีสิทธิ์ลุ้นทดลองขับรถรุ่นนี้ฟรี 1 ปี

ทั้งนี้นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เคยประกาศตั้งเป้าหมายการขาย “ยาริส เอทีฟ” ไว้ 4,700 คันต่อเดือน และหวังว่า “ยาริส ตัวถังแฮตช์แบ็ก” ยังคงสร้างยอดขายกว่า 2,000 คันต่อเดือน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560