ฮอนด้า โมบิลิโอ ไมเนอร์เชนจ์ ความอเนกประสงค์แบบพอเพียง

16 ก.ย. 2560 | 13:01 น.
ตั้งแต่ต้นปี 2560 ค่ายรถยนต์ฮอนด้าดูคึกคักครึกครื้นดีครับ เพราะกระหนํ่าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งแบบโมเดลเชนจ์และไมเนอร์เชนจ์ รวมๆ ก็ 5 รุ่น ไล่ตั้งแต่ ซิตี้,ซีวิค แฮตช์แบ็ก, ซีอาร์-วี,โมบิลิโอ,แจ๊ซ

mp33-3296-b จริงๆผมไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะเป็นไปตามอายุโมเดล ซึ่งฮอนด้าเป็นค่ายรถยนต์ที่วางตารางการเปลี่ยนโมเดลใหม่ไว้ชัดเจน คาดเดาได้ง่าย แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือในรอบ 10 ปีหลัง ฮอนด้าเสริมรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดมากเหลือเกิน โดยเฉพาะกลุ่ม Regional Model หรือรถยนต์ที่ทำตลาดเฉพาะภูมิภาคนั้นๆ (ถ้า Global Model คือ แจ๊ซ ซีวิค แอคคอร์ด ซีอาร์-วี)

ดังนั้นจากแนวคิดการเพิ่มรถแบบ Regional Model เพื่อตอบสนองลูกค้าในภูมิภาคนั้นๆ เราจึงเห็นการมาของ เก๋งเล็ก “บริโอ้” ครอสโอเวอร์ “บีอาร์-วี” และเอ็มพีวี “โมบิลิโอ” ที่ใช้พื้นฐานวิศวกรรมเดียวกัน

mp33-3296-c สำหรับ “โมบิลิโอ” บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ดึงงานมาทำที่เมืองไทยสำเร็จ ต่างจากเอ็มพีวียี่ห้ออื่นที่มักใช้ฐานการผลิตที่อินโดนีเซีย โดยเปิดตัวครั้งแรกเดือนกันยายน 2557 จากนั้นต้นปี 2559 ปรับสเปกเครื่องยนต์ให้รองรับนํ้ามันแก๊สโซฮอล์ อี85 (แรงม้าลดลง 3 ตัว) เพื่อรับภาษีสรรพสามิตใหม่ (ให้เสียภาษีในพิกัดเดิมคือ 25%)

โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ฮอนด้าแบ่งการขายเป็น 3 รุ่นย่อยคือ รุ่น S เบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง ราคา 6.59 แสนบาท และรุ่นเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง V ราคา 6.99 แสนบาท และตัวท็อป RS ชุดแต่งเต็ม ราคา 7.63 แสนบาท โดยรุ่นอื่นๆยังราคาเดิมแต่ตัวท็อป RS ราคาขยับขึ้นมา 8,000 บาท (ตอนต้นปี 2559 ก็ขยับราคาขึ้นไปครั้งหนึ่งแล้ว)

mp33-3296-d ฮอนด้าไม่เรียก “โมบิลิโอ” ว่าเป็น MPV- Multi Purpose Vehicle แต่จัดการตั้งชื่อให้ใหม่ว่า MUV หรือ Metro Utility Vehicle เพื่อสร้างบุคลิกที่ชัดเจน เจาะจงลงไปกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ใช้ชีวิตหลากหลาย กิจกรรมเพียบ ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าโมเดลอเนกประสงค์รุ่นอื่นๆ และมีรุ่นเริ่มต้นราคา 6.59 แสนบาท ซึ่งรุ่นนี้ยังเผื่อเอาไว้ให้ใช้เพื่อเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ จากเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง สามารถพับเบาะหลังแล้วเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ ขนของค้าขายได้สบาย(ที่นํ้าหนักไม่เยอะ) เหมาะกับวัยรุ่นยุคใหม่ที่นิยมสร้างธุรกิจของตนเอง

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 อย่างไรก็ตาม ในรุ่นที่ผมขับเป็นตัวท็อป RS ที่นอกจากจะต่างกันด้วยการวางเบาะนั่ง 3 แถวแล้ว การตกแต่งภายนอก-ภายใน ก็ทำให้ดูดีมีความหรูหรามากขึ้น ทั้งกระจังหน้าแบบดำเงา(Gloss Black) ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟหรี่แบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้า พร้อมกันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ต แถมสเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED และปลายท่อไอเสียแบบสเตนเลสส์ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าเป็นตัวท็อปด้วยการแปะสัญลักษณ์ RS บนกระจังด้านหน้าและฝากระโปรงท้าย

ภายในมีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว ไว้ควบคุมระบบเครื่องเสียง พร้อมปุ่มสั่งงานบนพวงมาลัย แอร์อัตโนมัติ และเพิ่มออพชันอย่างกล้องมองหลัง รวมถึงระบบคีย์เลส สมาร์ทเอ็นทรี

mp33-3296-a เมื่อเข้าไปนั่งภายใน เหมือนรถเรียวยาวหลังคาสูง แต่ซ้าย-ขวาก็ไม่ได้กว้างขวางอะไร มิติยาว 4,398 มม. กว้าง 1,683 มม. สูง 1,603 มม. และระยะฐานล้อ 2,652 มม ยิ่งใช้งานนานๆไปจะรู้สึกว่า รถตัวจริงขนาดไม่ใหญ่มาก
รถแบบนี้เน้นอรรถ ประโยชน์ ผมไม่ได้คาดหวังสมรรถนะ ทว่าขับจริงๆต้องใช้คำว่าไม่ขี้เหร่ครับ เครื่อง ยนต์ SOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 117 แรงม้า ส่งกำลังลงสู่ล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ขับเคลื่อนรถไปด้วยความกระฉับกระเฉง (ผมขับคนเดียว และไม่มีสัมภาระ) เสียงเครื่องมีแผดดังเข้ามาเล็กน้อยเวลาเข่นคันเร่งหนักๆ ลากรอบสูงๆ (ต้องดูจังหวะของเกียร์ด้วย)

การทรงตัวอยู่ในขั้นพอใช้ได้ ซึ่งระยะตํ่าสุดจากพื้น 189มม.ไม่ได้ถือเป็นความเสียหายและช่วยให้การเข้าออกขนของขึ้น-ลงสบาย ล้ออัลลอย ขนาด 15 นิ้วยาง 185/65 R16พยายามจิกเกาะ ทุกโค้งอย่างเต็มความสามารถ

mp33-3296-e อย่างไรก็ตาม คนขับคงต้องประเมินศักยภาพของรถ และขับให้เหมาะสมกับการใช้งาน ว่าวิ่งรถเปล่า หรือแบกคนขนของมาเต็มลำ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการควบคุมและระยะเบรก ขณะที่อัตรา บริโภคนํ้ามันเฉลี่ยๆ ผมเห็นตัวเลขระดับ 14 กม./ลิตร ส่วนฮอนด้าเคลมไว้ตามอีโคสติกเกอร์ 16.39 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ...โมบิลิโอ เป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด ที่ตอบสนองการใช้งานได้หลากหลาย แถมขับง่ายสบายมือ ในรุ่นท็อปยกระดับความหรูหรา ส่วนรุ่นเริ่มต้นราคา 6 แสนบาท กลางๆ หากเอาไว้ใช้วิ่งงานสร้างเงิน ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1