จีนล้อมคอกICO ลดความเสี่ยงการเงิน

รัฐบาลจีนสั่งห้ามการระดมทุนของภาคธุรกิจผ่านการเสนอขายเงินดิจิตอลครั้งแรก (ICO) หวังลดและสกัดความเสี่ยงทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

แม้จะเป็นมาตรการที่หลายฝ่ายคาดหวังกันอยู่แล้ว แต่คำสั่งครั้งนี้ก็ทำให้วงการตลาดเงินดิจิตอล หรือที่เรียกกันว่า คริปโตเคอร์เรนซี (cryptocurrency) ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าราว 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สั่นสะเทือนอยู่ดี โดยราคาบิตคอยน์ร่วงลงทันทีกว่า 11.4% ขณะที่อีเธอเรียม ซึ่งเป็นอีกสกุลเงินดิจิตอลร่วงลงเกือบ 20% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ธนาคารกลางแห่งประเทศจีนที่เป็นผู้มีอำนาจกฎหมายด้านการเงินทุกอย่างในประเทศได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ICO (Initial Coin Offerings) นั้นถือเป็นวิธีการการระดมทุนที่ผิดกฎหมาย ทั้งองค์ กรหรือบุคคลทั่วไป ไม่สามารถทำกิจกรรมเกี่ยวกับ ICO ได้ทุกชนิดแล้ว

การทำ ICO ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (2560) ภาคธุรกิจจีนทำ IOC ไปแล้ว 65 ครั้ง คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 13,000 ล้านบาท จากนักลงทุนกว่า 100,000 แสนคนทั่วประเทศ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของการทำ ICO ทั่วโลก

นักวิเคราะห์กล่าวว่ามาตรการของจีนที่ต้องการห้ามการระดมทุนผ่านการเสนอขายเงินดิจิตอลนั้นจะทำให้ปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างแน่นอน และนั่นก็จะทำให้พัฒนาการของตลาดเงินดิจิตอลในจีนชะลอตัวลง แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นมูลเหตุที่แท้จริงของมาตรการห้ามการระดมทุนของภาคธุรกิจเอกชนในตลาดเงินดิจิตอล แต่คำสั่งที่ออกมานี้ก็เป็นหนึ่งในมาตรการสกัดกั้นความเสี่ยงทางการเงินที่รัฐบาลจีนมีมาให้เห็นเป็นระลอกๆก่อนที่จะมีการปรับตำ-แหน่งในการประชุมครั้งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนหน้า ทั้งนี้ ในรอบปีที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นประมาณ 600% ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่านี่เป็นการปั่นราคาจนอาจกลายเป็นฟองสบู่ ทำให้ธนาคารกลางต้องออกมาตรการสกัดกั้นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,296 วันที่ 14 - 16 กันยายน พ.ศ. 2560