ทิสโก้ฟันธงดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้แตะ 1,700 จุด

11 ก.ย. 2560 | 05:30 น.
บล.ทิสโก้ชี้เลือกตั้งปี 61 หนุนเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าหุ้นไทยกว่า1.2 แสนล้านบาท มองเป้าหมายหุ้นไทยปลายปีแตะ 1,700 จุด อานิสงส์กองทุนแอลทีเอฟ และเศรษฐกิจหนุน แนะทยอยเก็บหุ้นตั้งแต่ตอนนี้ดักทางดัชนีปีหน้าทำนิวไฮ 1,800 จุด

 

[caption id="attachment_206451" align="aligncenter" width="335"] นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล[/caption]

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ มองภาพรวมตลาดหุ้นไทยในงานสัมมนา TISCO Monthly Guru Updates ว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองไทยที่เริ่มมีความชัดเจนและมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในเดือนสิงหาคม 2561 อย่างแน่นอน ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติยังถือครองหุ้นไทยอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับในอดีต จึงประเมินว่าตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2561 จะมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ดัชนีหุ้นไทยปี 2561 ไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,800 จุดได้

ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี 2560 ยังมองเป้าหมายดัชนีสิ้นปี 2560 ไว้ที่ 1,700 จุดด้วยระดับ Forward Price To Earnings (Forward P/E) ที่ 16.5 เท่า ซึ่งถือว่าแพงเมื่อเทียบกับอดีต แต่อยู่ในระดับที่ไม่แพงนักเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค นอกจากนี้ ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลียังส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเป็นอีกหนึ่งตลาดที่นักลงทุนเลือกที่จะโยกเงินลงทุนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มาหลบความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอีกด้วย

“มองว่าดัชนีหุ้นไทยจะปรับขึ้นแรงในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 เพราะมีแรงซื้อจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) มาหนุน อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว โดยเรายังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2560 ขยายตัว 3.6% และคาดว่าในปี 2561 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.8% ตามการลงทุนของภาครัฐ แต่ในเดือนกันยายนประเมินว่าหุ้นไทยจะยังเคลื่อนไหวในรูปแบบ Sideways Up ในกรอบ 1,600 - 1,650 จุด จึงเหมาะที่จะใช้จังหวะนี้ในการเก็บสะสมหุ้นใหญ่ โดยตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาพบว่าดัชนีของตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เริ่มปรับตัวขึ้นและมีสัญญาณซื้อหลังจากดัชนีปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหุ้นเด่นสำหรับเดือนนี้แนะนำคือ ANAN, BANPU, CK, RJH, ROJNA, TCAP และ TPIPP ส่วนหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่เริ่มมีสัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น SOLAR, STA, AMA, ITDเป็นต้น” นายวิวัฒน์กล่าว

สำหรับสถานการณ์ที่ยังต้องติดตามในช่วงนี้คือการพิจารณากฎหมายสำคัญๆ ของสหรัฐฯ โดยมีร่างกฎหมายที่ต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วนคือ 1. ร่างกฎหมายเพื่ออนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐ 2. ร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ 3. ร่างกฎหมายงบประมาณปี FY 2018 ซึ่งการพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับเป็นปัจจัยเสี่ยงกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่คาดว่ากฎหมายทั้ง 3 ฉบับจะผ่านการพิจารณาได้และกลายเป็นปัจจัยหนุนเมื่อมีกระแสข่าวการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีตามมา แต่ประเมินว่าอัตราภาษีนิติบุคคลจะไม่สามารถปรับลดจนไปอยู่ที่ 15% ตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ หาเสียงไว้ เพราะเป็นอัตราที่ต่ำเกินไป

ทั้งนี้ งานสัมมนาTISCO Monthly GURU Updatesเป็นหนึ่งในกิจกรรมสัมนาที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนเพื่อเผยแพร่บทวิเคราะห์และทิศทางการลงทุนเพื่อช่วยให้ลูกค้าทิสโก้และนักลงทุนบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ตามกลยุทธ์การเป็นผู้แนะนำการลงทุนชั้นนำ หรือTop Advisory Houseของทิสโก้

สำหรับสถานการณ์ที่ยังต้องติดตามในช่วงนี้คือการพิจารณากฎหมายสำคัญๆ ของสหรัฐฯ โดยมีร่างกฎหมายที่ต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วนคือ 1. ร่างกฎหมายเพื่ออนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐ 2. ร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ 3. ร่างกฎหมายงบประมาณปี FY 2018 ซึ่งการพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับเป็นปัจจัยเสี่ยงกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่คาดว่ากฎหมายทั้ง 3 ฉบับจะผ่านการพิจารณาได้และกลายเป็นปัจจัยหนุนเมื่อมีกระแสข่าวการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีตามมา แต่ประเมินว่าอัตราภาษีนิติบุคคลจะไม่สามารถปรับลดจนไปอยู่ที่ 15% ตามที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ หาเสียงไว้ เพราะเป็นอัตราที่ต่ำเกินไป ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9