อีซูซุชูดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง เจาะตลาดลาวและกัมพูชา
นางปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มตรีเพชรโดยบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด สามารถสร้างยอดขายแบบก้าวกระโดดในตลาดกัมพูชา และลาว โดยโตขึ้น90% และ 45.7% ตามลำดับ
ล่าสุดเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด จึงมีการส่งรถรุ่น “The New Isuzu MU-X” ที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งด้านดีไซน์สปอร์ตหรู สมรรถนะอันทรงพลัง และฟังก์ชั่นล้ำสมัย ตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้ใช้รถยุคใหม่ได้สูงสุดในทุกด้าน พร้อมมุ่งเน้นดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing) ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด
“ตรีเพชรยังคงเดินหน้ารุกตลาดกัมพูชาและลาวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอีซูซุได้จัดงานเปิดตัวรถอเนกประสงค์สุดหรู “The New Isuzu MU-X” ที่พนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อเดือนมิถุนายน ถัดจากนั้นอีก 1 เดือนได้เปิดตัวที่ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนแต่ละประเทศร่วมเผยแพร่ข่าวสารเป็นจำนวนมาก
นางปนัดดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็มในการปลุกแบรนด์ “อีซูซุ” ด้วยการแนะนำยนตรกรรมคุณภาพของอีซูซุ ควบคู่ไปกับการยกระดับทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานเพื่อเสริมความเชื่อมั่นของผู้ใช้รถ รวมถึงการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยมานานถึง 60 ปี ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถอีซูซุในตลาดกัมพูชาเติบโตสูงขึ้น 90% ขณะที่ยอดจำหน่ายในตลาดลาวสูงขึ้น 47.5%เป็นที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ อีซูซุได้เน้นกลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งซึ่งเป็นทางลัดที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทั้งในกัมพูชาและลาวในการเข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสื่อออนไลน์เป็นสื่อที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกัมพูชา ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยหลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวเว็บไซต์www.isuzucambodia-tis.com และ Facebook Fanpage: “Isuzu Cambodia” และในประเทศลาว ผ่านทางwww.isuzulaos.com และ Facebook Fanpage: “Isuzu Laos” ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มียอดผู้ติดตามสูงขึ้นเป็นหลายหมื่นอย่างรวดเร็วเพียงระยะเวลาอันสั้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นแล้วบริษัทยังมีกิจกรรมกับผู้ติดตามเพจสม่ำเสมอ โดยอีซูซุมั่นใจว่าจะสามารถเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาด 10% ภายใน 3 ปี และ 30% ภายในระยะเวลา 5 ปีของทั้ง 2 ประเทศ
