แรงซื้อคอนโดหรูแผ่ว! 7เดือนเปิดใหม่แค่2โครงการ-หวังต่างชาติซื้อเพิ่ม

คอลลิเออร์ส เผยคอนโดมิเนียมกลุ่มซูเปอร์ลักชัวรี ช่วง 7 เดือนแรกปีนี้กำลังซื้อหนืด ผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการใหม่ ทั้งกรุงเทพฯยังมี 3,625 หน่วยทำเลยอดนิยมสุขุมวิทสูงถึง 50% รองลงมาลุมพินีและสีลม

เมื่อพูดถึงโครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายมากกว่า 3 แสนบาทต่อตารางเมตรนั้นโครงการในกลุ่มนี้มักจะอยู่ในทำเลเมืองชั้นในหรือว่าทำเลที่มีความพิเศษเช่น ริมแม่นํ้าเจ้าพระยาซึ่งเป็นทำเลที่ไม่อาจหาที่ดินทดแทนได้ในอนาคตโดยทำเลเหล่านี้เป็นทำเลที่ราคาที่ดินสูงปัจจุบันคอนโดมิเนียมหรูในกรุงเทพมหานครมีทั้งหมดประมาณ 3,625 ยูนิต ประมาณ50% กระจุกตัวในโซนสุขุมวิทรองลงมาคือโซนลุมพินีที่อยู่รอบสวนลุมพินี ส่วนสาเหตุที่โซนริมแม่นํ้าเจ้าพระยามีสัดส่วนน้อยที่สุด เพราะว่าที่ดินริมแม่นํ้ามีจำกัดนั่นเอง และติดขัดเรื่องของการเดินทางที่อาจจะไกลจากสถานีรถไฟฟ้า

[caption id="attachment_130975" align="aligncenter" width="503"] สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย[/caption]

นายสุรเชษฐ กองชีพรองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย เปิดเผยว่าคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรีเปิดขายมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดในปี2558 เนื่องจากช่วงปี 2557 ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครได้รับผลกระทบกระทบจากปัญหาการเมืองภายในประเทศอีกทั้งปัญหาเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่เริ่มมีผลกระทบต่อผู้ซื้อระดับกลางลงไปซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในตลาดคอนโดมิเนียมและส่งผลต่อเนื่องไปถึงยอดขายของผูป้ ระกอบการทุกราย ผู้ประกอบการหลายรายจึงเริ่มหาตลาดใหม่ที่ผู้ซื้อยังมีกำลังซื้ออยู่ ดังนั้นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพรวมไปถึงมั่นใจในชื่อเสียงของตนเองจึงเริ่มเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายมากกว่า 3 แสนบาทต่อตร.ม.มากขึ้นในโซนที่ที่ดิน มีราคาสูง อีกทั้งยังเป็นการหาทางออกให้กับที่ดินที่มีราคาสูงในโซนสุขุมวิทอีกด้วย

แต่จำนวนโครงการใหม่เริ่มลดลงในปี 2559 ต่อเนื่องมาถึงช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560แทบจะไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่เลย มีเพียง 1-2 โครงการคือ ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ของบริษัท สิงห์ เอสเตทฯ และ98 ไวร์เลส ของบริษัท แสนสิริฯส่วนโครงการอื่นจะเป็นโครงการที่เปิดตัวปลายปี 2559 แต่มาทำการตลาดและขายอย่างจริงจังในปีนี้ เช่น โครงการ 28 ชิดลม,เดอะ แบงค็อก ทองหล่อ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวประกอบกับกำลังซื้อในกลุ่มนี้มีจำกัด ผู้ประกอบการจึงเลือกที่จะชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ไปก่อน สำหรับในครึ่งหลังของปี 2560 นี้คาดว่าจะมีคอนโดมิเนียมหรูเปิดตัวไม่มากนักประมาณ 1 โครงการ คือ บันยันทรี โครงการริมแม่นํ้าเจ้าพระยาของเนอวานา ไดอิ
ทำ เลยอดนิยมของคอนโดมิเนียมหรูระดับราคาขาย 3 แสนบาทต่อตร.ม.นั้นสุขุมวิทเป็นโซนที่มีโครงการเปิดขายมากที่สุดเมื่อเทียบกับโซนอืน่ ๆ โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ทั้งนี้พื้นที่ที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจเปิดขายโครงการระดับนี้ในโซนสุขุมวิทคือ พื้นที่ตามแนวถนนสุขุมวิทตั้งแต่ช่วงแยกอโศกไปถึงทองหล่อที่ที่ดินมีราคาขายสูง
พื้นที่ในโซนอื่นๆ ก็มีการเปิดขายโครงการระดับนี้มากขึ้นเช่นกันโดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่นํ้าเจ้าพระยาที่ทุกโครงการในระดับราคานี้มีโรงแรมระดับ 5 ดาวเป็นผู้บริหารโครงการ

“อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในระดับราคานี้อยู่ที่ประมาณ 65%ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโครงการระดับนี้มีคนสนใจ แต่ต้องไม่ลืมว่ากลุ่มผู้ซื้อโครงการระดับนี้นั้นมีจำนวนไม่มากนัก โดยอัตราการขายเฉลี่ยในพื้นที่เมืองชั้นในตามแนวถนนสุขุมวิทและรอบสวนลุมพินีค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพื้นที่ริมแม่นํ้าเจ้าพระยาจะได้รับความสนใจน้อยกว่าเพียงแต่มีโครงการที่ขายแบบสิทธิการเช่าระยะยาวจึงทำให้ความน่าสนใจลดลงเท่านั้นเอง”

สำหรับกลุ่มผู้ซื้อโครงการคอนโดมิเนียมในระดับนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นคนไทยในสัดส่วนที่มากกว่าชาวต่างชาติอยู่ดี แต่กลุ่มผู้ซื้อคนไทยที่มีความสามารถในการซื้อโครงการระดับนี้นั้นมีอยู่จำกัดโดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ ผู้ประกอบการทุกรายจึงจำ เป็นต้องเปิดขายให้กับชาวต่างชาติด้วยเพื่อเข้ามาเติมในส่วนที่กำลังซื้อชาวไทยมีไม่พอ โดยสัดส่วนของผู้ซื้อชาวต่างชาติอยู่ที่ไม่เกิน 20% ของจำนวนผู้ซื้อทั้งหมด มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไปตามแต่ละโซนและนโยบายของผู้ประกอบการว่าต้องการผู้ซื้อชาวต่างชาติมากน้อยเท่าใด แต่รวมๆ แล้วอัตราการขายของคอนโดมิเนียมระดับนี้ก็ไม่น้อยเกินไปนัก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,295 วันที่ 10 - 13 กันยายน พ.ศ. 2560