ลุยปั้น LogTech พลิกโฉมอุตฯโลจิสติกส์

06 ก.ย. 2560 | 11:42 น.
บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ได้ริเริ่มโครงการ Panus Thailand LogTech Award 2017 ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี เพื่อเฟ้นหาสตาร์ทอัพด้านธุรกิจโลจิสติกส์ (LogTech) เป็นรายแรกของประเทศไทย ร่วมเข้าคอร์สติวเข้ม ผลักดันนวัตกรรมหรือไอเดียที่เป็นไปได้สู่การนำไปใช้จริงในภาคการขนส่ง ส่อจัดตั้งกองทุนหนุนสตาร์ทอัพ หวังต่อยอด Open Innovation เพื่อพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ให้แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเชื่อมโยงและยกระดับอุตสาหกรรมภาคการขนส่งของประเทศทั้งองคาพยพ

IMG_0949
นายพนัส วัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ผู้นำตลาดในภาคธุรกิจขนส่งมากว่า 47 ปี กล่าวว่า บริษัทพนัสฯ เป็นบริษัทคนไทยที่ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการขนส่งมาโดยตลอด ธุรกิจเริ่มต้นจากการต่อประกอบรถกะบะบรรทุกและสิบล้อไม้ สำหรับใช้บรรทุกข้าวและสินค้าทางการเกษตร ต่อมาได้มีการพัฒนานวัตกรรมรถประเภทอื่นๆ ป้อนเข้าสู่ระบบการขนส่งภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยพนัสฯ เป็นบริษัทแรกที่ริเริ่มผลิตรถพ่วงและรถกึ่งพ่วง ผลิตรถคอนเทนเนอร์พื้นเรียบและแชสซีคอนเทนเนอร์ เพื่อรองรับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าที่ขนส่งด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้ผลิตและส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ลาว พม่า กัมพูชา ฯลฯ และพัฒนาการออกแบบการผลิตรถขนส่งคุณภาพสูงหลายประเภทให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศด้วย

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้แบ่งธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งออกเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มรถเพื่อใช้ในการขนส่ง (Logistics) กลุ่มสินค้าเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ (Fabrication) กลุ่มอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้นสนามบิน (Ground Support Equipment) กลุ่มรถที่ใช้ในราชการทหาร (Defense) และกลุ่มงานบริการ (Service) ซึ่งมีศูนย์บริการ Panus S Plus 100 สาขา และต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แอฟริกาใต้ เป็นต้น ในปี 2559 มีรายได้มาจากธุรกิจในประเทศ 60% โดยกลุ่มโลจิสติกส์ถือเป็นธุรกิจหลัก และธุรกิจส่งออก 40% การเติบโตของธุรกิจโดยภาพรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 10% ต่อปี ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2020 จะเป็นผู้นำและเป็นผู้เชี่ยวชาญในภูมิภาคอาเซียน+6 เรื่องพาหนะ ระบบ อุปกรณ์ และบริการที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายสินค้า และเป็นผู้ให้คำตอบด้านการขนส่ง

“บริษัทฯ ตอบสนองภาคการขนส่งในประเทศเกือบ 100% และถือเป็นกระดูกสันหลังที่ขับเคลื่อนความสำเร็จของแทบทุกอุตสาหกรรม หัวใจสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ เป็นผู้นำในธุรกิจขนส่งอย่างแข็งแรงจนถึงทุกวันนี้คือ การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการและการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรมได้ ปัจจุบันเรามีแบบรถต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง และทำให้ต้นทุนของลูกค้าต่ำที่สุด และยังได้รับการรองรับจากกรมการขนส่งทางบกว่าเป็นอู่ผู้ผลิตระดับ 1 ปัจจุบันภาครัฐได้ยกระดับสตาร์ทอัพให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อเป็นกลไลหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ เราเห็นว่ายังไม่มีกิจกรรมใดที่ให้การสนับสนุนนวัตกรรมด้านการขนส่ง รวมทั้งสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่เป็นสตาร์ทอัพด้านโลจิสติกส์ หรือ LogTech จึงได้จัดทำโครงการ Panus Thailand LogTech Award 2017 ขึ้น เพื่อเป็นเวทีประกวดแนวคิดธุรกิจและโครงการด้านธุรกิจโลจิสติกส์เป็นครั้งแรกของประเทศไทย”

“ไอเดียหรือนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ที่มีศักยภาพ จะได้รับการสนับสนุนต่อยอดให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศ หรือระดับภูมิภาคต่อไป ซึ่งบริษัทฯ เองมีแผนจะพิจารณาจัดตั้งกองทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพกลุ่ม LogTech เราเชื่อว่าหากนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง และทันเวลา จะเกื้อหนุนและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ภาคโลจิสติกส์ดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น กล่าวคือ ทันสมัย เร็วขึ้น ลดต้นทุน มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งมีบทบาทที่สำคัญในการผลักดันให้เมกะโปรเจ็กต์ เช่น ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และ EECi รถไฟความเร็วสูง เกิดเร็วขึ้นหรือแข็งแรงขึ้นตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งย่อมจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศ”

นายพนัส กล่าวเสริมว่า โครงการ Panus Thailand LogTech Award 2017 ที่จัดประกวดในหัวข้อ “Logistics Innovation” พร้อมเปิดกว้างทุกไอเดียที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชั่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ เช่น ระบบบริหารคลังสินค้า การพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์หรือผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ เช่น รถหรืออุปกรณ์สนับสนุนการขนส่งทางบก-อากาศ-น้ำ ตลอดจนการเชื่อมโยงธุรกิจโลจิสติกส์เข้ากับธุรกิจอื่นๆ เช่น Logistics Market Place เป็นต้น โดยการประกวดจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ และกลุ่มนิสิตนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่มีแนวคิดใหม่ๆ ในการพัฒนาธุรกิจด้านโลจิสติกส์

IMG_0948
ด้าน ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ภารกิจหลักของ สวทช. โดยศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี ภายใต้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือ การสนับสนุนผู้ประกอบการใหม่ด้านเทคโนโลยี หรือ Tech Startup ให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจเติบโต และดำเนินกิจการได้อย่างประสบความสำเร็จ ที่ผ่านมามีการแบ่งเซ็กเตอร์ของสตาร์ทอัพออกเป็น 9 กลุ่ม อาทิ กลุ่มธุรกิจภาครัฐและการศึกษา (GovTech & EdTech) กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตแห่งอนาคต (IndustryTech) กลุ่มเทคโนโลยีการเงิน (FinTech) กลุ่มเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ (Propertytech) เป็นต้น แต่ยังคงมีเซ็กเตอร์หนึ่งที่ฝังตัวอยู่ในกลุ่ม IndustryTech คือ กลุ่มภาคการขนส่ง หรือ LogTech ซึ่งศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี สวทช. จึงร่วมมือกับบริษัทพนัสฯ ส่งเสริมสตาร์ทอัพกลุ่มนี้ในรูปแบบประชารัฐ ภายใต้โครงการ Panus Thailand LogTech Award 2017 นอกจากจะเป็นการค้นหาบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถ ป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์แล้ว โครงการดังกล่าวยังเป็นสะพานเชื่อมสตาร์ทอัพเกิดใหม่ในกลุ่ม LogTech เข้ากับองค์กรบริษัทใหญ่ที่แสวงหานวัตกรรมใหม่ๆ ในรูปแบบ Open Innovation ด้วย

IMG_0947 “โลจิสติกส์เป็นอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต จัดอยู่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย New S-Curve ที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมและผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth) สู่ประเทศไทย 4.0 LogTech จึงเป็นเซ็กเตอร์ที่มีศักยภาพสูง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ Panus Thailand LogTech Award 2017 จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักศึกษาและกลุ่มผู้ประกอบการ ในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ หรือผลงานนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ ทีมที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรกจะมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม LogTech BoothCamp ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มาเติมเต็มความรู้ แนวคิด ปรับปรุงแผนธุรกิจ และเป็นการเตรียมความพร้อมในการแข่งขันรอบพิชชิ่ง เพื่อเฟ้นหาแนวคิดและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ได้จริง ซึ่งกลุ่มธุรกิจสามารถเข้าร่วมโครงการเพื่อต่อยอดทางธุรกิจในด้านโลจิสติกส์ได้ ขณะที่กลุ่มนักศึกษาสามารถส่งไอเดียนวัตกรรมเชิงความคิดที่เป็นไปได้ และอาจจะสามารถต่อยอดเข้าทำงานร่วมกับบริษัทพนัสฯ ได้ในอนาคต จึงเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะก่อให้เกิดการร่วมลงทุนเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ รวมทั้งการสร้างคอมมูนิตี้ของกลุ่มโลจิสติกส์อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ชนะเลิศการประกวดผลงานในโครงการ Panus Thailand LogTech Award 2017 จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร ทั้งยังได้รับโอกาสในการไปดูงานโลจิสติกส์โลกที่ประเทศเยอรมนี รองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัลจำนวน 50,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัลจำนวน 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตรการเข้าร่วมแข่งขันประกวดผลงาน สำหรับนิสิตนักศึกษาที่ชนะการประกวดไอเดียธุรกิจ LogTech รับเงินรางวัลจำนวน 50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัลจำนวน 30,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตรการเข้าร่วมแข่งขันประกวดผลงาน