ยูเอ็นเตือนเมียนมาร์อาจสั่นคลอนเสถียรภาพเหนือภูมิภาค

วันนี้ (6 ก.ย. 60) - สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ว่า วานนี้ (5 ก.ย.) อันโตนิโอ กูเตอร์เรส (António Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เมียนมาร์ยุติความรุนแรงต่อชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ พร้อมเตือนถึงความเสี่ยงของการกวาดล้างกลุ่มชาติพันธุ์และความไร้เสถียรภาพในภูมิภาค

พร้อมกันนี้เขายังกระตุ้นคณะมนตรีความมั่นคงให้แถลงการณ์เพื่อยับยั้งและสร้างความสงบ โดยส่งจดหมายไปยังสมาชิกทั้ง 15 คนเพื่อแสดงความกังวลว่าความรุนแรงจะยุ่งเหยิงจนกลายเป็น “หายนะทางมนุษยธรรมที่อ้างชื่อสันติภาพและความมั่นคง ซึ่งอาจขยายตัวพ้นเขตชายแดนเมียนมาร์”

ทั้งนี้ ผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮิงญาได้อพยพออกจากรัฐยะไข่ของเมียนมาร์เข้าสู่บังกลาเทศแล้ว 125,000 รายนับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นในวันที่ 25 ส.ค. เมื่อกบฏโรฮิงญาโจมตีป้อมตำรวจและฐานทัพหลายสิบแห่งในรัฐยะไข่ การปะทะที่ตามมาและกองกำลังโต้กลับของกองทัพเมียนมาร์ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 400 ราย

เมียนมาร์เผยว่ากองกำลังความมั่นคงของเมียนมาร์ต่อสู้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อต่อต้าน “ผู้ก่อการร้าย” ซึ่งมีความผิดในการโจมตีป้อมตำรวจและกองทัพมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่รัฐของเมียนมาร์กล่าวโทษกองกำลังโรฮิงญาด้วยความผิดจากการเผาบ้านเรือนและสังหารประชาชน แต่ฝ่ายหน่วยงานคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและชาวโรฮิงญาที่อพยพไปยังบังกลาเทศกล่าวว่า กองทัพเมียนมาร์พยายามขับไล่พวกเขาออกมาด้วยการเผาไล่ที่และสังหารผู้คน

“เจ้าหน้าที่ของเมียนมาร์ต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดเพื่อยุติวงจรความรุนแรงอันเลวร้ายนี้เสีย แล้วให้ความปลอดภัยและความช่วยเหลือแก่ประชาชนทั้งหมดที่กำลังต้องการ” เลขาธิการสหประชาชาติเสริม