ก.ล.ต.กล่าวโทษ “หมอวิชัย” ไอเฟค

05 ก.ย. 2560 | 11:46 น.
ก.ล.ต. กล่าวโทษ “หมอวิชัย ถาวรวัฒนยงค์” ต่อ ปอศ. กรณีเลือกตั้งแบบคะแนนสะสม ขัดข้อบังคับบริษัท เข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหาร

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) เผยว่า สำนักงานก.ล.ต. ได้กล่าวโทษนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น ( IFEC ) ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กรณีกระทำโดยทุจริตโดยแสวงหาประโยชน์อันมิควรจากการเลือกตั้ง เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น ซึ่งการถูกกล่าวโทษทำให้นายวิชัยเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน จึงไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนได้

vichai

สืบเนื่องจากช่วงเดือนธันวาคม 2559 IFEC มีกรรมการบริษัทน้อยกว่าจำนวนองค์ประชุมที่กฎหมายกำหนด นายวิชัยซึ่งเป็นประธานกรรมการของบริษัทจึงเรียกประชุมผู้ถือหุ้น IFEC เพื่อเลือกตั้งกรรมการทดแทนกรรมการที่ว่าง ซึ่งการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 และการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560

นายวิชัยในฐานะประธานกรรมการและประธานที่ประชุมทั้ง 2 ครั้ง ได้ดำเนินการให้ที่ประชุมเลือกตั้งกรรมการบริษัททดแทนตำแหน่งที่ว่างโดยใช้วิธีการลงคะแนนเสียงแบบสะสม (cumulative voting)* ทั้งที่รู้ว่าข้อบังคับของบริษัทมิได้กำหนดให้สามารถกระทำได้ ซึ่งต่อมาในวันที่ 26 มิถุนายน 2560 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการที่ได้มาจากการเลือกด้วยวิธีการลงคะแนนเสียงดังกล่าว เนื่องจากไม่เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท และเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01

การกระทำของนายวิชัยดังกล่าว เป็นการกระทำที่ตั้งใจกระทำผิดและได้รับประโยชน์จากผลการเลือกตั้งเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือทำให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ตามมาตรา 89/7 และมาตรา 281/2 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษนายวิชัยต่อ ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนอื่น ๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหารของ IFEC รวมทั้งอดีตคณะกรรมการและผู้บริหารของ IFEC ว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหากปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ จะเป็นผลให้บุคคลดังกล่าว อาจถูกดำเนินการตามกฎหมายซึ่งมีทั้งโทษอาญาและมาตรการลงโทษทางแพ่ง

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว