‘สตีเบล’ชิมลางตลาดเครื่องปั๊มน้ำ
สตีเบลกางแผนกระตุ้นยอดขาย เบนเข็มรุกตลาดเครื่องปั๊มนํ้าในบ้าน หวังสร้างแบรนด์ครบเครื่องก่อนส่งทัพเครื่องทำนํ้าอุ่น นํ้าร้อน กรองนํ้า 5 รุ่นรวดเจาะตลาดเมืองไทย
นายพัลลภ เชี่ยวชาญวิทยเวช ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สตีเบล เอลทรอนเอเซีย จำกัด บริษัทผู้ผลิตเครื่องทำนํ้าอุ่น นํ้าร้อนจากประเทศเยอรมนี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวเครื่องปั๊มนํ้าสำหรับใช้ในบ้านซึ่งเป็นไลน์สินค้าและกลุ่มธุรกิจใหม่ออกมารุกตลาดเมืองไทย โดยจะวางขายทั่วประเทศอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 รวม 4 รุ่น 4 กำลังวัตต์ ได้แก่ 300, 450, 600, 700 วัตต์ โดยจะเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านการสื่อสารความต้องการของลูกค้า ประสิทธิภาพในการทำงานและประหยัดไฟ นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ในรูปแบบวิดีโอคลิปที่สามารถเข้าใจง่าย ควบคู่กับการใช้สื่อดั้งเดิม และล้อการทำตลาดควบคู่ไปกับเครื่องทำนํ้าอุ่น นํ้าร้อน เครื่องกรองนํ้า ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงของบริษัทควบคู่กันไปด้วย
[caption id="attachment_204424" align="aligncenter" width="335"]
พัลลภ เชี่ยวชาญวิทยเวช ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สตีเบล เอลทรอนเอเซีย จำกัด[/caption]
“ในส่วนของเครื่องปั๊มนํ้าจะเริ่มทดลองตลาดในไทยก่อน 1-2 ปี ก่อนจะทยอยส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ โดยชูจุดแข็งเรื่องของความเงียบ ลดเสียงรบกวนขณะปั๊มทำงาน โดยจะเน้นสร้างตลาดผ่านการให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากพฤติกรรมคนไทยมักจะเชื่อว่าเมื่อปั๊มนํ้ามีการทำงานจะต้องมีเสียงดัง ซึ่งบริษัทถือว่าเป็นเสียงรบกวน ควบคู่กับการชูความเป็นพรีเมียมแบรนด์แต่สามารถจับต้องได้ ซึ่งอาจจะมีราคาแพงกว่าแบรนด์จากญี่ปุ่นบ้างเล็กน้อย”
ขณะที่แผนงานสร้างแบรนด์ให้เติบโตระยะยาวในประเทศไทยนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลักได้แก่ 1.การสร้างแบรนด์ ที่มีความเป็นลักชัวรี อินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ในไทย 2.การสื่อถึงความเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืนและดูแลสิ่งแวดล้อม (กรีนโปรดักต์) โดยวางเป้าหมายระยะยาวมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3.เน้นสื่อสารการตลาดโดยเจาะลึกเข้าไปในใจกลุ่มเจนวาย และคนรุ่นใหม่เริ่มทำงาน จากเดิมที่กลุ่มเป้าหมายหลักอายุ 35 ปีขึ้นไป ผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่มากขึ้น จากเดิม 20 ครั้งต่อปีเพิ่มเป็น 30 ครั้งต่อปี โดย 15 ครั้งจะเป็นการจัดกิจกรรมที่เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งการเป็นสปอนเซอร์ คอนเสิร์ตต่างประเทศ,แรลลี่, มาราธอนต่างๆ หรืออีดีเอ็มคอนเสิร์ตที่มีสีสันมากขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายยอดขายสิ้นปีนี้ไว้ปี 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีที่ผ่านมา 10% ผ่านสินค้าหลักอย่างเครื่องทำนํ้าอุ่น-นํ้าร้อน,เครื่องกรองนํ้า และเครื่องเป่ามือ โดยในช่วง5 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตแล้วที่ 5% ซึ่งจากการเดินหน้ารุกตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตได้อีกครั้ง โดยในส่วนของเครื่องทำนํ้าอุ่น-นํ้าร้อนจะเปิดตัวออกมาทำตลาดอีก 2 รุ่น, เครื่องกรองนํ้าดื่ม 2 รุ่น และเครื่องกรองนํ้าใช้ 1 รุ่น ออกมาทำตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายในไตรมาสสุดท้าย
“จากสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างชะลอตัวบวกกับภาพรวมของตลาดอสังหา ริมทรัพย์ในเมืองไทยช่วงผ่านมาที่ค่อนข้างถดถอย ส่งผลให้ภาพรวมบริษัทช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตไม่ถึง 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่จากปัจจัยบวกในช่วงไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของกำลังซื้อหรือสินค้าใหม่ที่บริษัทจะมีการเปิดตัวทำให้มั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถสร้างยอดให้กลับมาเติบโตได้ที่ 10% ต่อปีตามเป้าหมายที่วางไว้” นายพัลลภกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,294 วันที่ 7 - 9 กันยายน พ.ศ. 2560
นายพัลลภ เชี่ยวชาญวิทยเวช ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สตีเบล เอลทรอนเอเซีย จำกัด บริษัทผู้ผลิตเครื่องทำนํ้าอุ่น นํ้าร้อนจากประเทศเยอรมนี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทมีแผนเปิดตัวเครื่องปั๊มนํ้าสำหรับใช้ในบ้านซึ่งเป็นไลน์สินค้าและกลุ่มธุรกิจใหม่ออกมารุกตลาดเมืองไทย โดยจะวางขายทั่วประเทศอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 รวม 4 รุ่น 4 กำลังวัตต์ ได้แก่ 300, 450, 600, 700 วัตต์ โดยจะเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านการสื่อสารความต้องการของลูกค้า ประสิทธิภาพในการทำงานและประหยัดไฟ นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ในรูปแบบวิดีโอคลิปที่สามารถเข้าใจง่าย ควบคู่กับการใช้สื่อดั้งเดิม และล้อการทำตลาดควบคู่ไปกับเครื่องทำนํ้าอุ่น นํ้าร้อน เครื่องกรองนํ้า ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงของบริษัทควบคู่กันไปด้วย
[caption id="attachment_204424" align="aligncenter" width="335"]
“ในส่วนของเครื่องปั๊มนํ้าจะเริ่มทดลองตลาดในไทยก่อน 1-2 ปี ก่อนจะทยอยส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ โดยชูจุดแข็งเรื่องของความเงียบ ลดเสียงรบกวนขณะปั๊มทำงาน โดยจะเน้นสร้างตลาดผ่านการให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากพฤติกรรมคนไทยมักจะเชื่อว่าเมื่อปั๊มนํ้ามีการทำงานจะต้องมีเสียงดัง ซึ่งบริษัทถือว่าเป็นเสียงรบกวน ควบคู่กับการชูความเป็นพรีเมียมแบรนด์แต่สามารถจับต้องได้ ซึ่งอาจจะมีราคาแพงกว่าแบรนด์จากญี่ปุ่นบ้างเล็กน้อย”
ขณะที่แผนงานสร้างแบรนด์ให้เติบโตระยะยาวในประเทศไทยนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลักได้แก่ 1.การสร้างแบรนด์ ที่มีความเป็นลักชัวรี อินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ในไทย 2.การสื่อถึงความเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืนและดูแลสิ่งแวดล้อม (กรีนโปรดักต์) โดยวางเป้าหมายระยะยาวมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม 3.เน้นสื่อสารการตลาดโดยเจาะลึกเข้าไปในใจกลุ่มเจนวาย และคนรุ่นใหม่เริ่มทำงาน จากเดิมที่กลุ่มเป้าหมายหลักอายุ 35 ปีขึ้นไป ผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาดที่มากขึ้น จากเดิม 20 ครั้งต่อปีเพิ่มเป็น 30 ครั้งต่อปี โดย 15 ครั้งจะเป็นการจัดกิจกรรมที่เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งการเป็นสปอนเซอร์ คอนเสิร์ตต่างประเทศ,แรลลี่, มาราธอนต่างๆ หรืออีดีเอ็มคอนเสิร์ตที่มีสีสันมากขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายยอดขายสิ้นปีนี้ไว้ปี 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีที่ผ่านมา 10% ผ่านสินค้าหลักอย่างเครื่องทำนํ้าอุ่น-นํ้าร้อน,เครื่องกรองนํ้า และเครื่องเป่ามือ โดยในช่วง5 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตแล้วที่ 5% ซึ่งจากการเดินหน้ารุกตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตได้อีกครั้ง โดยในส่วนของเครื่องทำนํ้าอุ่น-นํ้าร้อนจะเปิดตัวออกมาทำตลาดอีก 2 รุ่น, เครื่องกรองนํ้าดื่ม 2 รุ่น และเครื่องกรองนํ้าใช้ 1 รุ่น ออกมาทำตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายในไตรมาสสุดท้าย
“จากสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างชะลอตัวบวกกับภาพรวมของตลาดอสังหา ริมทรัพย์ในเมืองไทยช่วงผ่านมาที่ค่อนข้างถดถอย ส่งผลให้ภาพรวมบริษัทช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตไม่ถึง 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่จากปัจจัยบวกในช่วงไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของกำลังซื้อหรือสินค้าใหม่ที่บริษัทจะมีการเปิดตัวทำให้มั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถสร้างยอดให้กลับมาเติบโตได้ที่ 10% ต่อปีตามเป้าหมายที่วางไว้” นายพัลลภกล่าว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,294 วันที่ 7 - 9 กันยายน พ.ศ. 2560
