ผลสำรวจรัฐบาล "บิ๊กตู่" สอบตกแก้ปากท้อง
สถาบันพระปกเกล้าร่วมกับกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานสถิติแห่งชาติ แถลงผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับความพึงพอใจเกี่ยวกับการให้บริหารสาธารณะและการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ประจำปี 2560 โดยสำรวจของประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 33,420 คน กระจายทุกจังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 24 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม 2560
+ พอใจจัดการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า จากการสำรวจความเห็นประชาชนในประเด็นนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประชาชนรู้จักมากที่สุดใน 5 อันดับแรก คือ การจัดการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการสูงถึง 97.3% รองลงมาคือโครงการหลักหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค 97.1% การควบคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท 95.6% แก้ปัญหาบุกรุกที่ดิน ป่าไม้ ทะเล 89.7% และควบคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล 89.4% การแก้ไขปัญหายาเสพติด อาวุธสงคราม มาเฟีย และผู้มีอิทธิพล 88.1%
ความพึงพอใจต่อการรักษาความสงบภายในประเทศ 87.9% การจัดระเบียบต่างด้าวและการค้ามนุษย์ 86.4% การจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรที่ยังไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย 81.3% การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ 78.1% การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล 77.1% การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 73.1% นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้รับพึงพอใจ 69.9% ส่วนการปฎิรูปการเมืองและการร่างรัฐธรรมนูญ 68.5%
ขณะเดียวกันมีผลการสำรวจที่ประชาชนมีความพึงพอใจน้อยที่สุด คือ แก้ปัญหาสินค้าอุปโภค บริโภคราคาแพง 43.9% การดูแลราคาพืชผล/ช่วยเหลือเกษตรกร 54% การสร้างสันติสุข-ความปลอดภัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 62.1% การบริหารจัดการพลังงาน ด้านราคาน้ำมัน แก๊ส 65.5% และการปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษี โครงสร้างภาษี 68.2%
+ เชื่อมั่นศาลยุติธรรม
ด้านนางถวิลวดี บุรีกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า แถลงถึงแนวทางแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลพบว่า ประชาชน 57.6% เห็นว่าแก้ไขได้บ้าง และ 11.5% ระบุว่าแก้ไขได้อย่างมาก ส่วนการแก้ปัญหาด้านสังคม ประชาชน 59.4% ระบุว่าแก้ไขได้บ้าง ส่วนที่ระบุว่าแก้ไขได้อย่างมากมี 22.4%
ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อการทำงานขององค์กรอิสระ ที่ประชาชนค่อนข้างเชื่อมั่นถึงเชื่อมั่นมาก อันดับแรกคือศาลยุติธรรม 83.6% รองลงมาคือศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองมีส่วนสัดส่วนความเชื่อมั่นใกล้เคียงกัน คือ 80.3% และ80.2% ผู้ตรวจการแผ่นดิน 71.8% คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 70.7% องค์กรอัยการ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) มี่ระดับความเชื่อมั่นในช่วง 60-69%
+ คนเชื่อมั่น ”บ๊กตู่” 84.8%
นางถวิลวดี ถึงความเชื่อมั่นกับบุคคล สถาบันและหน่วยงานต่างๆของประชาชน พบว่า ประชาชนค่อนข้างเชื่อมั่นและเชื่อมั่นมาก ตั้งแต่ 80% ขึ้นไป คือ แพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐ 86.4% แพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน 85.6% ทหาร 85.1% นายกรัฐมนตรี 84.8% ข้าราชการพลเรือน 82.3% และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 82.1%
ขณะที่ความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการการคอร์รัปชั่นและการรับสินบนในการปกครองระดับประเทศ พบว่า ประชาชน 70% ระบุว่ามีคอร์รัปชั่นและรับสินบนในการปกครองระดับประเทศ โดยผู้ที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่บางคนคอร์รัปชั่น 53.4% เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่คอร์รัปชั่น 13.3%
ในการสำรวจครั้งนี้ มีการถามถึงความเชื่อมั่นต่อสถาบันและหน่วยงานที่ตั้งขึ้นในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อาทิ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประชาชนเชื่อมั่น 57.6% สภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) 54.9% กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) 52.8% คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฎิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) 47.6% ขณะที่พรรคเพื่อไทย มีคนเชื่อมั่น 39.4% ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ 36.8%
จากเอกสารการสำรวจเป็นที่น่าสังเกตว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นต่อทหารพบว่า ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (ปี 2555-2556) ประชาชนเชื่อมั่นต่อทหาร79.4% และ 75.4% ต่อมาในปี 2557 คสช.ยึดอำนาจ ความเชื่อมั่นต่อทหารขยับขึ้นเป็น 84.1% ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในปี 2558 ความเชื่อมั่นพุ่งสูงถึง 85.9% ในปี 2559 หลังบริหารประเทศครบ 1 ปี ความเชื่อมั่นทหารลดลงเล็กน้อย 85.8% และปี 2560 ความเชื่อมั่นลดลงเป็น 85.1% สะท้อนว่า ภาพรวมในการดำเนินนโยบายรัฐบาลยังต้องมีการแก้ไข ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจที่ระบุว่า ประชาชน 59.4% เห็นว่ารัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาสังคมและเศรษฐกิจได้บ้าง
ผลสำรวจทั้งหลายทั้งปวงเสมือนกระจกเงาส่องไปยังรัฐบาล เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้รัฐเร่งแก้ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องปากท้องประชาชนให้เร็วที่สุด
+ พอใจจัดการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า จากการสำรวจความเห็นประชาชนในประเด็นนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประชาชนรู้จักมากที่สุดใน 5 อันดับแรก คือ การจัดการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการสูงถึง 97.3% รองลงมาคือโครงการหลักหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค 97.1% การควบคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท 95.6% แก้ปัญหาบุกรุกที่ดิน ป่าไม้ ทะเล 89.7% และควบคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล 89.4% การแก้ไขปัญหายาเสพติด อาวุธสงคราม มาเฟีย และผู้มีอิทธิพล 88.1%
ความพึงพอใจต่อการรักษาความสงบภายในประเทศ 87.9% การจัดระเบียบต่างด้าวและการค้ามนุษย์ 86.4% การจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรที่ยังไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย 81.3% การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ 78.1% การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล 77.1% การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 73.1% นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้รับพึงพอใจ 69.9% ส่วนการปฎิรูปการเมืองและการร่างรัฐธรรมนูญ 68.5%
ขณะเดียวกันมีผลการสำรวจที่ประชาชนมีความพึงพอใจน้อยที่สุด คือ แก้ปัญหาสินค้าอุปโภค บริโภคราคาแพง 43.9% การดูแลราคาพืชผล/ช่วยเหลือเกษตรกร 54% การสร้างสันติสุข-ความปลอดภัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 62.1% การบริหารจัดการพลังงาน ด้านราคาน้ำมัน แก๊ส 65.5% และการปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษี โครงสร้างภาษี 68.2%
+ เชื่อมั่นศาลยุติธรรม
ด้านนางถวิลวดี บุรีกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า แถลงถึงแนวทางแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลพบว่า ประชาชน 57.6% เห็นว่าแก้ไขได้บ้าง และ 11.5% ระบุว่าแก้ไขได้อย่างมาก ส่วนการแก้ปัญหาด้านสังคม ประชาชน 59.4% ระบุว่าแก้ไขได้บ้าง ส่วนที่ระบุว่าแก้ไขได้อย่างมากมี 22.4%
ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อการทำงานขององค์กรอิสระ ที่ประชาชนค่อนข้างเชื่อมั่นถึงเชื่อมั่นมาก อันดับแรกคือศาลยุติธรรม 83.6% รองลงมาคือศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองมีส่วนสัดส่วนความเชื่อมั่นใกล้เคียงกัน คือ 80.3% และ80.2% ผู้ตรวจการแผ่นดิน 71.8% คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 70.7% องค์กรอัยการ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) มี่ระดับความเชื่อมั่นในช่วง 60-69%
+ คนเชื่อมั่น ”บ๊กตู่” 84.8%
นางถวิลวดี ถึงความเชื่อมั่นกับบุคคล สถาบันและหน่วยงานต่างๆของประชาชน พบว่า ประชาชนค่อนข้างเชื่อมั่นและเชื่อมั่นมาก ตั้งแต่ 80% ขึ้นไป คือ แพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐ 86.4% แพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน 85.6% ทหาร 85.1% นายกรัฐมนตรี 84.8% ข้าราชการพลเรือน 82.3% และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 82.1%
ขณะที่ความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการการคอร์รัปชั่นและการรับสินบนในการปกครองระดับประเทศ พบว่า ประชาชน 70% ระบุว่ามีคอร์รัปชั่นและรับสินบนในการปกครองระดับประเทศ โดยผู้ที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่บางคนคอร์รัปชั่น 53.4% เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่คอร์รัปชั่น 13.3%
ในการสำรวจครั้งนี้ มีการถามถึงความเชื่อมั่นต่อสถาบันและหน่วยงานที่ตั้งขึ้นในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อาทิ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประชาชนเชื่อมั่น 57.6% สภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) 54.9% กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) 52.8% คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฎิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) 47.6% ขณะที่พรรคเพื่อไทย มีคนเชื่อมั่น 39.4% ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ 36.8%
จากเอกสารการสำรวจเป็นที่น่าสังเกตว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นต่อทหารพบว่า ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (ปี 2555-2556) ประชาชนเชื่อมั่นต่อทหาร79.4% และ 75.4% ต่อมาในปี 2557 คสช.ยึดอำนาจ ความเชื่อมั่นต่อทหารขยับขึ้นเป็น 84.1% ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในปี 2558 ความเชื่อมั่นพุ่งสูงถึง 85.9% ในปี 2559 หลังบริหารประเทศครบ 1 ปี ความเชื่อมั่นทหารลดลงเล็กน้อย 85.8% และปี 2560 ความเชื่อมั่นลดลงเป็น 85.1% สะท้อนว่า ภาพรวมในการดำเนินนโยบายรัฐบาลยังต้องมีการแก้ไข ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจที่ระบุว่า ประชาชน 59.4% เห็นว่ารัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาสังคมและเศรษฐกิจได้บ้าง
ผลสำรวจทั้งหลายทั้งปวงเสมือนกระจกเงาส่องไปยังรัฐบาล เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้รัฐเร่งแก้ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องปากท้องประชาชนให้เร็วที่สุด