เพิ่มมูลค่าการค้า! จีนจับคู่ท่าเรือมาเลเซีย เชื่อม​ “เส้นทางสายไหม”

09 ก.ย. 2560 | 08:29 น.
“โครงการเส้นทางสายไหมยุคใหม่” ของจีน ที่รู้จักกันในชื่อ Belt and Road (ชื่อเดิม One Belt One Road) ไม่ได้พาดผ่านภูมิภาคอาเซียนในส่วนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เราจะนึกถึงโครงการเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว และจีน-ไทย รวมทั้งโครงการตัดถนนไฮย์เวย์จากคุนหมิงผ่านไปยังเมียนมา แต่ในส่วนของเส้นทางทางทะเลนั้น จีนกำลังจับมือมาเลเซียพัฒนาความร่วมมือด้านท่าเรือ โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเส้นทางสายไหมยุคใหม่นี้ด้วย

ต้นสัปดาห์นี้ (4 ก.ย.) องค์กรพันธมิตรท่าเรือจีน-มาเลเซีย หรือ China-Malaysia Port Alliance ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี 2558 เพื่อสร้างความเชื่อมโยงทางทะเล ภายใต้ความริเริ่มเส้นทางสายไหมยุคใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ได้รับเพิ่มท่าเรือสมาชิกใหม่ 5 ราย โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างจีนและมาเลเซียมากยิ่งขึ้น

 

[caption id="attachment_204069" align="aligncenter" width="503"] จีนเข้าร่วมลงทุนในโครงการมะละกาเกตเวย์ จีนเข้าร่วมลงทุนในโครงการมะละกาเกตเวย์[/caption]

 

ทั้งนี้ องค์กรดังกล่าว มีสมาชิกดั้งเดิม 16 ท่าเรือ เป็นของมาเลเซีย 6 ท่าเรือ และของจีน 10 ท่าเรือ รับเข้าร่วมเพิ่มขึ้นอีก 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือชิงเต่าและท่าเรือเทียนจิน ของจีน กับ 3 ท่าเรือของมาเลเซีย ได้แก่ ท่าเรือเคมาแมน, ท่าเรือซาบาห์ และท่าเรือคูซิง ทำให้มีท่าเรือที่เป็นพันธมิตร 21 ท่าเรือ กลายเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์เกี่ยวกับท่าเรือของทั้ง 2 ประเทศ

นายหลิว เผิง เจ้าหน้าที่อาวุโส กระทรวงคมนาคมจีน กล่าวว่า จีนและมาเลเซียมีการเปิดเส้นทางเดินเรือเส้นทางใหม่ระหว่างกัน ทำให้สามารถลำเลียงขนส่งสินค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการลงทุนด้านท่าเรือระหว่างกันมากขึ้น เช่น การลงทุนของจีน ในโครงการมะละกาเกตเวย์ และท่าเรือกวนตัน ขณะที่ มาเลเซียเองก็ได้เข้าไปลงทุนในท่าเรือเว่ยฟางของจีน

ด้าน นายเลียว เทียง ไล รัฐมนตรีคมนาคมของมาเลเซีย เปิดเผยว่า ความร่วมมือด้านท่าเรือของทั้ง 2 ประเทศ เป็นการเปิดช่องทางให้ทั้งจีนและมาเลเซียได้แลกเปลี่ยนและแบ่งปันวิธีการบริหารจัดการท่าเรือที่ดีที่สุด ซึ่งไม่เพียงจะทำให้แต่ละท่าเรือสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แต่ยังจะช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการท่าเรืออีกด้วย นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย ยังจะร่วมมือในการฝึกอบรมบุคลากร รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ทางเทคนิค เพื่อการรองรับปริมาณการค้าผ่านท่าเรือที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต


หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,294 วันที่ 7-9 ก.ย. 2560

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว