ค่าเงินบาทเปิดตลาดกรอบแคบ 33.20 บาทต่อดดอลลาร์ฯ จับตาประชุมธนาคารกลางยุโรป-ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ กดดันค่าเงินดอลลาร์
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบุค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงจาก 33.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สิ้นวันศุกร์ที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์ยังคงทรงตัว โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ แกว่งตัวใกล้ระดับ 92.60 จุด แม้ตลาดเริ่มกลับมากังวลต่อปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี หลังทางการเกาหลีเหนือรายงานความสำเร็จการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ แบบ Hydrogen bomb ซึ่งมีความรุนแรงมากที่สุด นับตั้งแต่เกาหลีเหนือมีการทดลองอาวุธนิวเคลียร์มา
สำหรับสัปดาห์นี้มีตัวเลขเศรษฐกิจ ที่น่าสนใจดังนี้ เริ่มจากวันอังคาร นักวิเคราะห์จะจับตา ดัชนีผู้จัดฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของจีน โดย Caixin ซึ่งมีโอกาสสูงกว่าระดับ 51 บ่งชี้สภาวะการขยายตัว (ดัชนีเกิน 50จุด) ต่อเนื่องของภาคการบริการในจีน วันพุธ ตลาดมองว่า ภาคการบริการของสหรัฐฯจะยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง สะท้อนผ่าน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อโดย ISM ที่ยังคงสูงกว่าระดับ 50 จุด วันพฤหัสบดี ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี มองว่า ธนาคารกลางยุโรป จะยังคงนโยบายการเงินต่อ พร้อมทั้งแสดงความกังวลต่อการแข็งค่าอย่างหนักของค่าเงินยูโรซึ่งจะส่งผลลบต่อการฟื้นตัวของอัตราเงินเฟ้อและการส่งออกของยูโรโซน และในวันศุกร์ ตลาดจะจับตายอดการส่งออกและนำเข้าของจีน ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถึง 5% และ 10% ตามลำดับ
มองเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าได้ ในช่วงก่อนการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และแกว่งตัวในช่วงกรอบ 33.15-33.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลัง ตลาดยังคงสถานะ short positions ของดอลลาร์ ส่งผลให้ ดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าชัดเจนได้ยาก นอกจากนี้การความเสี่ยงการเมืองสหรัฐฯ อาทิ ปัญหาเพดานหนี้รัฐบาล ที่จะเริ่มกลับมาเป็นประเด็นสำคัญ จะสามารถทำให้ดอลลาร์ยังคงมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์มีโอกาสกลับมาแข็งค่าหนักได้ หาก ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด และ ประธานธนาคารกลางยุโรปไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินคิวอี พร้อมทั้งแสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินยูโร
คาดค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในช่วงสัปดาห์นี้ที่ 33.15 – 33.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ