จีทูจีเก๊ : คนไทยจ่ายค่าโง่เลี้ยงข้าวต่างชาติ

03 ก.ย. 2560 | 08:28 น.
1504257348244

จีทูจีเก๊ : คนไทยจ่ายค่าโง่เลี้ยงข้าวต่างชาติ | คอลัมน์ โจรสลัดอันดามัน เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจออนไลน์
อภิมหาโครงการจำนำข้าวและการทุจริตขายข้าวจีทูจี แม้ศาลฎีกานักการเมืองจะตัดสินจีทูจีเก๊ภาคแรกไปแล้ว แต่ยังมีต่อภาค 2 ที่ต้องติดตามไม่กระพริบตาเหมือนกัน
ด้วยความที่เป็นอภิมหาโปรเจ็กและอภิมหาแห่งการทุจริตคอรรัปชัน ใช้เงินมหาศาล รัฐเสียหายมหาศาล องคาพยพข้าวย่อยยับ จึงมีหลายแง่มุมที่ต้องถกเถียงวิพากษ์ วิจารณ์เพื่อเป็นบทเรียนให้เราทุกคนได้พึงสำนึก สำเหนียกต่อไป
ผมใช้คำว่าเราทุกคน เพราะทุกคนในประเทศมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงมีจำนวนหนึ่งที่ศาลพิพากษาแล้ว ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงแต่มีผลกระทบเกิดขึ้น คือ ผู้บริโภค ผู้เสียภาษี หรือเราๆท่านๆนี่เอง
รัฐใช้เงินในโครงการจำนำข้าวหรือซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง เพราะให้ราคาสูง ไม่มีการไถ่ถอนอยู่แล้ว ใช้ไปทั้งสิ้น 8.78 แสนล้านบาท รวมค่าเก็บรักษา พลิกกอง รมยา ค่าเช่าโกดัง ค่าดอกเบี้ยโครงการ ปาเข้าไป 9 แสนกว่าล้าน ในราคารับจำนำข้าวเปลือก 1.5 หมื่นบาท คิดเป็นราคาข้าวสารบวกค่าเก็บรักษาต่างๆตกประมาณ 2.5 หมื่นบาทต่อตัน หรือ 833 เหรียญต่อตันในคำฟ้องของจีทูจี โดยจากการให้ปากคำของหลายคน ระบุว่ามีการนำข้าวออกมาขาย โดยทำทีให้รัฐวิสาหกิจจีนมาซื้อ เป็นนอมินีหรือตัวแทนเชิดของกลุ่มสยามอินดิก้าและเสี่ยเปี๋ยง ได้ข้าวไปในราคา 13,500 บาทต่อตันหรือ 450 เหรียญต่อตัน ในหลายสัญญา และบางล็อต 9,000 บาทต่อตัน ตีซะว่า 450 เหรียญต่อตัน เท่ากับเราติดลบทันที 383 เหรียญต่อตัน ในการให้ข้าวซึ่งถือเป็นทรัพย์สินของรัฐแก่กลุ่มบุคคลพวกนี้ไป

21231765_1784110768270603_8069516163216277683_n
คราวนี้เสียเปี๋ยงและพวกนำข้าวส่วนนี้ไปให้พรรคพวกส่งออก ตีให้ราคาสูงเลยช่วงนั้นข้าวราคาพุ่งขึ้น แต่คนอื่นได้ขาย เราได้ขายออกไปน้อย ตีให้ราคาสูงที่ 550 เหรียญต่อตันหรือ 16,500 บาทต่อตัน หรือ 16.5 บาทต่อกิโลกรัม

ย้อนกลับไปดูต้นทุน 2.5 หมื่นบาทต่อตันหรือ 25 บาทต่อกิโลกรัม ขายส่งออก 16,500 บาทหรือ 16.5 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนต่างที่เกิดขึ้นเท่ากับ 8,500 บาทต่อตันหรือ 8.5 บาทต่อกิโลฯ นั่นหมายถึงข้าวทุกตัน ทุกกิโลฯที่ส่งออกในช่วงนั้นต้องใช้เงินของประชาชนผู้เสียภาษีไปอุดหนุนให้ผู้บริโภคข้าวหรือผู้ซื้อในต่างประเทศ คนกินในต่างประเทศทันที 8.5 บาทต่อกิโลฯ
ตัวเลขการส่งออกช่วงนั้นตกต่ำมากปี 55 ลดเหลือ 6.5 ล้านตัน คิดหยาบๆว่า 6.5 ล้านตันนี้เป็นข้าวจากสต็อกรัฐแค่ 3 ล้านตัน คิดแง่ดีว่าที่เหลืออีก 3.5 ล้านตันพ่อค้าไปหาซื้อข้าวในตลาดได้ คิดจาก3ล้านตันปีนั้นเราต้องใช้เงินอุดหนุนผู้บริโภคต่างประเทศไปทั้งสิ้น 2.55 หมื่นล้านบาท แค่ปีเดียวนะครับ พอมาปี 56 สมมติเอาอีกสัก 3 ล้านตันอีก ตัวเลขอุดหนุนจะเพิ่มขึ้นเพราะราคาขายลดลงมาหมายความว่าส่วนต่างเพิ่มขึ้น
คิดแบบหยาบๆอีกเช่นกันปี 56 อีก 3 หมื่นล้านบาท 2 ปี 5.5 หมื่นล้าน ประเทศไทยนี้ ช่างร่ำรวยเป็นเศรษฐีใจบุญเสียจริงๆ บุคคลที่สนับสนุน คิดค้นวิธีการแบบนี้ อำมหิตเหลือเกินกับคนไทย ที่นำพาไปให้แบกผู้บริโภคในต่างประเทศด้วย