ธปท.จับตาส่งออก-บริโภคเอกชนครึ่งหลังฟื้นต่อเนื่อง หวังส่งต่อเศรษฐกิจฐานรากขยับตาม เผยผลสำรวจนักธุรกิจประเมินเศรษฐกิจผ่านจุดตํ่าสุดแล้ว ไตรมาส 3 สัญญาณการลงทุนภาคเอกชนกลับมาเป็นบวกกรุงศรีฯปรับเพิ่มจีดีพีทั้งปีแตะ 3.8%
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาพรวมของเศรษฐกิจเดือนกรกฎาคม 2560 ยังขยายตัวได้ดี ในภาคการส่งออกสินค้าและบริการ การลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณกลับมาเป็นบวก ส่วนการบริโภคขยายตัวในอัตราชะลอตัว เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับลดลง
[caption id="attachment_77157" align="aligncenter" width="382"]
พรเพ็ญ สดศรีชัย
ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)[/caption]
นางพรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ธปท.จะติดตามการฟื้นตัวของการส่งออก และการบริโภคภาคเอกชนไตรมาสที่ 4 ว่าจะไปในทิศทางบวกต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจมหภาค
“หากภาพรวมเป็นไปได้ ก็จะเป็นความหวังในการส่งต่อเศรษฐกิจจุลภาคค่อยๆขยับตัวฟื้นตาม เพราะจากการสำรวจและพูดคุยกับนักธุรกิจ ส่วนใหญ่บอกเศรษฐกิจผ่านจุดตํ่าสุดแล้ว แต่ห่วงกำลังซื้อฐานรากซึ่งอันนี้จะค่อยๆทยอยปรับขึ้นมา”
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจหลายค่ายที่ออกมาดีแต่ความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ยังมีคำถามนั้นนางพรเพ็ญ ระบุว่า ในส่วนของธปท.สะท้อนตัวเลขเศรษฐกิจเชิงบวกซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขปกติที่ไม่ถึงกับดีมาก แต่เรื่องของความรู้สึกนั้นเป็นเรื่องตอบยาก แต่ในแง่ของกลุ่มฐานรากที่กำลังซื้อยังไม่มานั้น ส่วนหนึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะแสดงว่ากลุ่มฐานรากรอให้มั่นใจก่อน จึงค่อนข้างระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย ซึ่งในส่วนของหนี้เวลานี้ยังเป็นปัญหาเช่นกัน
[caption id="attachment_129346" align="aligncenter" width="379"]
สมประวิณ มันประเสริฐ ที่ปรึกษาและหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา[/caption]
นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ครึ่งหลังเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องคาดว่าจะขยายตัวเติบโตได้ประมาณ 4% ขณะที่ทั้งปีจีดีพีสามารถขยายตัวได้ 3.8% ซึ่งมีแรงส่งจากภาคส่งออกและนักท่องเที่ยวที่กลับมา อีกทั้งยังเห็นสัญญาณการลงทุนของภาคเอกชนเริ่มกลับมาทำให้ทั้งปีมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจภาพรวมมีการฟื้นตัวแบบกระจายตัวในท้ายปี
ในส่วนของธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ปรับเพิ่มประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ทั้งปีเป็นอัตรา 3.8% จากเดิมอยู่ที่ 3.4% โดยการปรับเพิ่มการเติบโตของภาคส่งออกเป็น 6.5% จากเดิมอยู่ที่ 3.3% ขณะเดียวกันปรับเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป็น 7% จากเดิมอยู่ที่ 6% ซึ่งเฉพาะ 2 ปัจจัยนี้จะเป็นแรงหนุนหลักและจะมีผลจากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนเอกชนด้วย ซึ่งเริ่มเห็นการลงทุนภาคเอกชนเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลังโดยทั้งปีมีโอกาสขยายตัวได้ 2.1% โดยเฉพาะการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจส่งออก
นอกจากนี้แนวโน้มการเบิกจ่ายภาครัฐในไตรมาส 3 และ 4 จะเร่งตัวขึ้นพอสมควร แม้ว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมาการเบิกจ่ายภาครัฐแผ่วลงเนื่องจากการเคลื่อนย้ายแรงงานในฤดูกาลเพาะปลูก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,293 วันที่ 3 - 6 กันยายน พ.ศ. 2560