‘จีสตีล’ ดิ้นอีกเฮือก!

03 ก.ย. 2560 | 07:03 น.
“จีสตีล” นับ 1 วิ่งเจรจาเจ้าหนี้การค้าอีกรอบ หนีการฟื้นฟูกิจการ คาดกลุ่มเหล็กรายใหญ่ เสียผลประโยชน์จากการแปลงหนี้เป็นทุน บล็อกโหวต

การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท จีสตีลฯ (GSTEL) ซึ่งมีวาระสำคัญอยู่ที่การปรับโครงสร้างหนี้และการแปลงหนี้เป็นทุนให้กับบริษัท เอสเอสจี โฮลดิ้งส์ฯ (SSG) โดยต้องมีเสียง 3 ใน 4 หรือ 75% ของผู้มาประชุม แต่ปรากฏว่าผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วยในการแปลงหนี้เป็นทุน มีเพียง 1,960.39 ล้านหุ้น หรือ 68.31% ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้มาประชุม ส่วนเสียงผู้ถือหุ้นไม่เห็นด้วย มีถึง 909 ล้านหุ้น หรือ 31.67% ส่งผลให้การแปลงหนี้เป็นทุน เพื่อให้หลุดต่อการเข้าฟื้นฟูกิจการมีความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากส่วนทุนที่ลดลงต่อเนื่องใกล้ติดลบ ณ ไตรมาส 2/ 2560 เหลือเพียง 2,818 ล้านบาท รวมทั้งความเสี่ยงจากคำตัดสินคดีความของคู่ค้าชื่อ คาร์กิล มูลหนี้ 3,600 ล้านบาท ที่รอศาลฎีกาตัดสิน เป็นความเสี่ยงสำคัญของบริษัท จีสตีลฯ

นอกจากนี้หากจีสตีล สามารถแปลงหนี้เป็นทุนสำเร็จ ยังส่งผลดีให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่สูงปรี๊ด 20 เท่า ลดฮวบลงมาเหลือ 1.1 เท่า

e-book แหล่งข่าวจากผู้ถือหุ้น กล่าวว่า กลุ่มที่คัดค้านการปรับโครงสร้างหนี้และแปลงหนี้เป็นทุน คาดว่าเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้น 2-3 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มค้าเหล็กที่เสียผลประโยชน์จากการแปลงหนี้เป็นทุน แม้ว่าจะเป็นกลุ่มที่โหวตไม่ได้ แต่มีพันธมิตรกลุ่มเหล็กที่มีความเข้าใจผิดหรือได้ข้อมูลไปผิดๆ จากกลุ่มนี้ ไม่โหวตให้ผ่าน ซึ่งประเด็นที่คัดค้านน่าจะเป็นดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินจากกลุ่ม SSC ที่สูงถึง 12 % แลกกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการปรับโครงสร้าง 614 ล้านบาท และผลประโยชน์อื่นๆ รวมจากการแปลงหนี้เป็นทุน 8,369 ล้านบาท

นางสาวสุนทรียา วงศ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท จีสตีลฯ (GSTEL) กล่าวว่า บริษัทใช้เวลาเจรจากับเจ้าหนี้การค้าทุกรายก่อนหน้าการประชุมผู้ถือหุ้นถึงความจำเป็นที่ต้องแปลงหนี้เป็นทุน หลังจากนี้ต้องเริ่มต้นทั้งหมดใหม่ ในการเจรจาทุกส่วนตั้งแต่เจ้าหนี้การค้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย คาดว่าใช้เวลาไม่เกินภายในสิ้นปี 2560 นี้ สามารถเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นได้อีกครั้ง

“ส่วนทุนของผู้ถือหุ้นที่ใกล้ติดลบ ยังรองรับได้ถึงไตรมาส 2/2561 จำนวน 800 ล้านบาท ก่อนสิ้นปีนี้ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นให้จบ เพื่อให้ขั้นตอนต่างๆ ทันส่วนทุน” นางสาวสุนทรียา กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า การปรับโครงสร้างหนี้ไม่สำเร็จ แต่กลุ่ม SSG ผู้ถือหุ้นอนุมัติการรับความช่วยเหลือทางการเงินจาก SSG เป็นเงิน 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,414.87 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,293 วันที่ 3 - 6 กันยายน พ.ศ. 2560