บางจาก ปั้นดีเซลสูตรใหม่
หลังจากค่ายบางจาก พัฒนานํ้ามัน “ Hi Premium Diesel S” และเปิดตัวตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าทั้งกลุ่มรถยนต์นั่งและกลุ่มรถพาณิชย์ ให้การตอบรับดี ด้วยจุดเด่นช่วยให้กำลังแรงขึ้นตั้งแต่ถังแรกที่เติม เครื่องยนต์เดินเงียบ และวิ่งได้ระยะทางมากขึ้น
สำหรับนํ้ามันสูตรใหม่นี้ผลิตด้วยนวัตกรรม The Next Generation Green Cetane ที่ตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้รถที่ต้องการนํ้ามันดีเซลคุณภาพสูง รองรับเทคโนโลยีของเครื่องยนต์รุ่นใหม่จากการผสานองค์ประกอบนํ้ามันคุณภาพ โดยจุดเด่นของ Hi Premium Diesel S ประกอบไปด้วย ค่าซีเทนสูงสุดถึง 70 (มาตรฐานกรมธุรกิจพลังงานกำหนดค่าซีเทนขั้นตํ่า 50) ส่งผลให้กำลังแรงในทุกอัตราเร่ง และ ประหยัดนํ้ามันได้ถึง 4.3%
อีกทั้งยังผนวกสาร Hi Active Cleansing ช่วยให้หัวฉีดสะอาดขึ้นกว่า 70% พร้อมปกป้องเครื่องยนต์ จุดระเบิดเผาไหม้ได้เต็มประ สิทธิภาพ รักษาอายุของเครื่อง ยนต์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น จุดเด่นต่อมาคือ มาตรฐาน Euro 5 ค่ากำมะถันลดลงกว่า 5 เท่า (เมื่อเทียบกับ Euro 4) ช่วยลดมลพิษ ดีต่อสิ่งแวดล้อม
“แม้นํ้ามันพรีเมียมจะมีราคาขายต่อลิตรสูงกว่านํ้ามันดีเซลทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ผู้ใช้จะได้รับกลับมาคือการประหยัดค่าใช้จ่ายทันทีที่เติมถังแรก และเมื่อเปรียบเทียบลิตรต่อลิตร บาทต่อกิโลเมตร ราคาจะดูแพงกว่าเมื่อนำไปเทียบต่อกิโลเมตร แต่คุณสมบัติอื่นๆ ที่ได้เพิ่มขึ้นมาทั้งเรื่องอัตราเร่ง,การทำความสะอาดหัวฉีด หรือแคตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ (Catalytic Converter) อุปกรณ์กำจัด ลด ปริมาณมลพิษ ที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ก่อนปล่อยออกสู่บรรยากาศ ซึ่งรถยนต์หลายๆ รุ่นจะเกิดอาการอุดตันเร็ว เพราะการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ หากอุดตันต้องเปลี่ยน เจ้าของรถบางท่านไม่อยากเปลี่ยน ก็ต้องตัดออก แต่เมื่อใช้นํ้ามันตัวนี้แล้วจะช่วยยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์นี้ได้ยาวนานขึ้น” นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาดบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวและว่า
สำหรับนํ้ามันดีเซลเกรดพรีเมียมรวมกันทั้งตลาดมียอดจำหน่ายรวมกัน 60 ล้านลิตรต่อเดือน โดยบางจากมีส่วนแบ่งทางการตลาดนี้ 5% หรือเฉลี่ยยอดขายต่อสถานีบริการอยู่ที่ 2 หมื่นลิตรต่อเดือนทั้งนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการขายด้วยการมอบคะแนน 6 เท่า ให้สมาชิกบัตรบางจากดีเซลคลับที่เติม Hi Premium Diesel S จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,293 วันที่ 3 - 6 กันยายน พ.ศ. 2560
สำหรับนํ้ามันสูตรใหม่นี้ผลิตด้วยนวัตกรรม The Next Generation Green Cetane ที่ตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้รถที่ต้องการนํ้ามันดีเซลคุณภาพสูง รองรับเทคโนโลยีของเครื่องยนต์รุ่นใหม่จากการผสานองค์ประกอบนํ้ามันคุณภาพ โดยจุดเด่นของ Hi Premium Diesel S ประกอบไปด้วย ค่าซีเทนสูงสุดถึง 70 (มาตรฐานกรมธุรกิจพลังงานกำหนดค่าซีเทนขั้นตํ่า 50) ส่งผลให้กำลังแรงในทุกอัตราเร่ง และ ประหยัดนํ้ามันได้ถึง 4.3%
อีกทั้งยังผนวกสาร Hi Active Cleansing ช่วยให้หัวฉีดสะอาดขึ้นกว่า 70% พร้อมปกป้องเครื่องยนต์ จุดระเบิดเผาไหม้ได้เต็มประ สิทธิภาพ รักษาอายุของเครื่อง ยนต์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น จุดเด่นต่อมาคือ มาตรฐาน Euro 5 ค่ากำมะถันลดลงกว่า 5 เท่า (เมื่อเทียบกับ Euro 4) ช่วยลดมลพิษ ดีต่อสิ่งแวดล้อม
“แม้นํ้ามันพรีเมียมจะมีราคาขายต่อลิตรสูงกว่านํ้ามันดีเซลทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ผู้ใช้จะได้รับกลับมาคือการประหยัดค่าใช้จ่ายทันทีที่เติมถังแรก และเมื่อเปรียบเทียบลิตรต่อลิตร บาทต่อกิโลเมตร ราคาจะดูแพงกว่าเมื่อนำไปเทียบต่อกิโลเมตร แต่คุณสมบัติอื่นๆ ที่ได้เพิ่มขึ้นมาทั้งเรื่องอัตราเร่ง,การทำความสะอาดหัวฉีด หรือแคตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ (Catalytic Converter) อุปกรณ์กำจัด ลด ปริมาณมลพิษ ที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ก่อนปล่อยออกสู่บรรยากาศ ซึ่งรถยนต์หลายๆ รุ่นจะเกิดอาการอุดตันเร็ว เพราะการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ หากอุดตันต้องเปลี่ยน เจ้าของรถบางท่านไม่อยากเปลี่ยน ก็ต้องตัดออก แต่เมื่อใช้นํ้ามันตัวนี้แล้วจะช่วยยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์นี้ได้ยาวนานขึ้น” นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาดบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวและว่า
สำหรับนํ้ามันดีเซลเกรดพรีเมียมรวมกันทั้งตลาดมียอดจำหน่ายรวมกัน 60 ล้านลิตรต่อเดือน โดยบางจากมีส่วนแบ่งทางการตลาดนี้ 5% หรือเฉลี่ยยอดขายต่อสถานีบริการอยู่ที่ 2 หมื่นลิตรต่อเดือนทั้งนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการขายด้วยการมอบคะแนน 6 เท่า ให้สมาชิกบัตรบางจากดีเซลคลับที่เติม Hi Premium Diesel S จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,293 วันที่ 3 - 6 กันยายน พ.ศ. 2560
