รอยัล เอนฟิลด์ ปูพรมขยายดีลเลอร์

06 ก.ย. 2560 | 09:52 น.
รอยัล เอนฟิลด์ เดินหน้าเปิดโชว์รูมทั้งเอ็กซ์คลูซีฟสโตร์ และมัลติแบรนด์ หวังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าก่อนซื้อ แง้มแผนรถใหม่ปลายปีมีโชว์แน่ แต่ยังแอบหวั่นใจโครงสร้างภาษีใหม่จะกระทบราคาขาย ด้านบริษัทแม่ที่อินเดียเปิดไลน์การผลิตโรงงานแห่งที่ 3เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น

นายสมรรถ รอบบรรเจิด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจเนอร์รัลออโต้ ซัพพลาย จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรอยัล เอนฟิลด์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์หลักที่บริษัทเร่งดำเนินการคือขยายเครือข่ายดีลเลอร์ จากปัจจุบันที่มีจำนวน 5 แห่งได้แก่ ทองหล่อ, พัทยา,หาดใหญ่, โคราช และ เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นเอ็กซ์คลูซีฟสโตร์ และกำลังเปิดเพิ่มคือวิภาวดีฯ และอีกหนึ่งสาขาในเขตกรุงเทพ

ขณะเดียวกันได้เปิดดีลเลอร์แบบมัลติแบรนด์ โดยจะเปิดสาขาได้แก่ ลพบุรี, พิษณุโลก และอีก 3 แห่งซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

“เราให้ความสำคัญกับโชว์รูมและศูนย์บริการ เพราะเราอยากให้ลูกค้าได้มองเห็นรถเห็นการบริการหลังการขาย ตรงจุดนี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าก่อนจะเป็นเจ้าของรถ ส่วนอะไหล่ต่างๆเรามีการนำเข้ามาจากอินเดียเพื่อรองรับพร้อมทั้งสื่อสารให้เห็นถึงราคา ค่าบริการต่างๆซึ่งเรายืนยันว่าค่าซ่อมบำรุงของเราไม่แพง และเรามีการจับมือกับพาร์ตเนอร์ต่างๆเพื่อมอบความพิเศษให้กับลูกค้า”

นายสมรรถกล่าวเพิ่มเติมว่า แผนงานด้านโมเดลใหม่ในช่วงนี้ยังไม่เห็น แต่ปลายปีในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป น่าจะมีไฮไลต์เด่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นรถต้นแบบหรือรุ่นพิเศษต่างๆมาโชว์ ปัจจุบันรถที่จำหน่ายอยู่ประกอบไปด้วย 3 รุ่น 4 โมเดล ได้แก่ รุ่นคอนติเนนทัล จีที (Continental GT) ราคา 219,800 บาท, รุ่นบุลเล็ต500(Bullet 500) ราคา 179,800 บาท และรุ่นคลาสสิก (Classic)ราคา 189,800 บาท อีกหนึ่งโมเดลคือคลาสสิก โครม (Classic Chrome) ราคา 198,800 บาท ส่วนรุ่นคลาสสิกที่มาพร้อมกับไซด์ คาร์ (Classic Side Car) ราคา 258,700 บาท โดยรถทุกคันจะได้รับประกัน 2 ปี 1 หมื่นกิโลเมตร

MP32-3293-2 “เราเพิ่งได้สต๊อกรถในเดือนพฤษภาคมและเริ่มทยอยส่งมอบให้กับลูกค้า โดยรถยอดฮิตคือ คลาสสิก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% และที่เหลืออีก 30% เป็นอีก2 รุ่น ส่วนหิมาลายันนั้นเดิมทีจะนำมาขายในปีนี้ แต่เนื่องจากติดขัดปัญหาเล็กน้อย ตอนนี้จึงไม่เปิดรับจอง อย่างไรก็ดีในแง่ยอดขายหรือการตอบรับของลูกค้าในปีนี้ถือว่าดีกว่าปีก่อนมาก เพราะปีที่ผ่านมาเราไม่มีรถส่งมอบ”

นายสมรรถกล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะผู้นำเข้ารถจากประเทศอินเดีย ตอนนี้ผู้ประกอบการกำลังมีการติดตามกันอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ที่จะมีประกาศในวันที่ 16 กันยายนนี้ว่าจะมีผลต่อการนำรถเข้ามาหรือไม่อย่างไร เพราะปัจจุบันบริษัทมีการเสียเต็มจำนวนที่รัฐได้ระบุเอาไว้

“จริงๆโครงสร้างใหม่ไม่ได้มีผลต่อแผนที่เราจะนำเข้ารถรุ่นต่างๆ เพราะเรายังเดินหน้าที่จะทำตามแพลนที่เราวางไว้ เพียงแต่มีความกังวลใจว่าจะกระทบกับลูกค้ามากน้อยแค่ไหนมากกว่า ส่วนบริษัทแม่ที่อินเดียก็พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ เพราะเขาต้องการที่จะเติบโต และอยากให้รอยัล เอนฟิลด์แจ้งเกิดในตลาดประเทศไทยให้ได้”

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของบริษัทแม่ รอยัล เอนฟิลด์ ที่อินเดีย ได้ประกาศเดินสายการผลิตเชิงการค้าที่โรงงานแห่งใหม่ ณ เมืองวัลลัม วาดากัล ใกล้เมืองเชนไน รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย โดยมีพื้นที่กว่า 50 เอเคอร์ ถือเป็นโรงงานผลิตมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์แห่งที่ 3 ทำการผลิตเพื่อป้อนทั้งตลาดอินเดีย และตลาดต่างประเทศ

โดยรอยัลเอนฟิลด์ ตั้งเป้าหมายการผลิตของโรงงานทั้ง 3 แห่งไว้ที่ 8.25 แสนคันภายในปี 2560-2561 ส่วนในรอบปี 2559-2560 รอยัล เอนฟิลด์ได้ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไปกว่า 6.67แสนคัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,293 วันที่ 3 - 6 กันยายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว