บินไทยฝ่ามรสุมราคา เปิดเกมรุกน่านฟ้ายุโรป

จากแผนปฏิรูปหยุดเลือดไหลยกเลิกเส้นทางโรม หลังจากขาดทุนหนักเมื่อ 2 ปีก่อนของการบินไทย แต่ด้วยแรงกดดันจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในรอบ 50 ปี ของวาติกัน ที่คาดว่าจะมีผู้คนทั่วสารทิศเข้ามาชมทั้งปีราว 38 ล้านคน อีกทั้งผู้บริหารสนามบินโรมยังพร้อมให้สนับสนุนเต็มที่แลกกับให้บริการหลังการบินไทยเปิดบินมากว่า 30 ปี

ในที่สุดแผนนี้จึงล้มไป พร้อมกับปรับโมเดลธุรกิจใหม่ เปลี่ยนเครื่องบินจาก โบอิ้ง 747 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก เป็นต้นเหตุให้ขาดทุน เปลี่ยนมาใช้เครื่องบินใหม่ ทันสมัย ประหยัดนํ้ามัน อย่างแอร์บัสเอ 350 ผนวกกับ ลุคใหม่ของบริการบนเครื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ ปรับเมนูอาหาร ส่งผลให้อัตราบรรทุก(โหลดแฟกเตอร์) ดีขึ้น และขายตั๋วได้ยีลด์ (กำไรต่อหน่วย) สูงขึ้น

[caption id="attachment_202520" align="aligncenter" width="503"] อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานการบินไทย อุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) และรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์และคณะผู้บริหาร ร่วมกันแถลงข่าว ณ สำนักงานกรุงโรม ประเทศอิตาลี[/caption]

++ปรับโมเดลธุรกิจใหม่
เจษฎา จันเทรมะ ผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นยุโรปและ ธรรมนูญ กู้ประเสริฐ ผู้จัดการทั่วไปสำนักงานขายประเทศอิตาลี การบินไทยร่วมกันฉายภาพว่า สัดส่วนรายได้ของการบินไทย 20% มาจากตลาดยุโรป ซึ่งมีจุดบิน 12 เมืองทั่วภูมิภาค 20% มาจากตลาดเอเชียและ 30% มาจากโฮมเบสหรือจากประเทศไทยและอินโดจีน การบินไทยจึงมีแผนขยายเส้นทางบินยุโรปอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนโมเดลการขายเพื่อให้สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น ทั้งปรับกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดและการปรับราคาให้เหมาะสม

โดยเฉพาะเส้นทางบินโรมมีการปรับโครงสร้างราคาใหม่ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2560 โดยยึดหลัก ขายง่ายขึ้น แข่งขันได้ และไม่ตํ่าจนเกินไป นอกจากนี้ยังมุ่งตลาดคอร์ปอเรต องค์กรระดับโลกที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ทำให้สัดส่วนการขายที่เป็นเน็ต เวิร์กขยับจาก 40% มาเป็น 48% และภาพรวมตลาดมีสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ 22-25% เป็นการขายจากอิตาลีมาเมืองไทยและยังขายบิยอร์น จากไทยไปออส- เตรเลียและญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฯลฯ ซึ่งผลตอบรับดีมาก หลังจากเปลี่ยนเครื่องรีซูมไฟลต์รายได้ก็โตขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 18%

อีกทั้งการบินไทยมีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-เวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 16 พฤศจิกายนี้ ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์เปิดประตู สู่ตลาดยุโรปตะวันออก ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าช่วง 6 เดือนแรกมีอัตรานักท่องเที่ยวขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งมีตัวเลขราว 4 หมื่นคน ขณะเดียว กันมีแผนเพิ่มเที่ยวบินเข้าบรัสเซล ประเทศเบลเยียม จาก 4 เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

++ขยายรูต เปิดเส้นทางบินใหม่
นอกจากนี้ยังมีแผนกลับไปบินเข้ามาดริด ประเทศสเปน ซึ่งอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ตลาด เพราะสเปนถือเป็นตลาดเก่า การบินไทยยังมีลูกค้าอยู่แล้วและบางคนก็มาขึ้นเครื่องที่โรม รวมถึงกำลังศึกษาแผน ที่จะเปิดเส้นทางเข้าเมืองรองของเยอรมนีอย่าง ดุสเซลดอร์ฟ และแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ อีกด้วย

อย่างไรก็ดี การเปิดบินเข้าจุดบินใหม่อย่างสเปน เท่ากับเป็นการใช้เครื่องบินให้เกิดประ สิทธิภาพ (Aircraft utilization) อย่างเต็มที่ อาจเป็นการเชื่อมจากโรมหรือมิลาน เป็นการเพิ่มรายได้และใช้เครื่องบินจากที่ต้องจอดพักบินต่อไปอีก 2 ชั่วโมง และแม้เศรษฐกิจยุโรปมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ 60% คนยุโรปเที่ยวกันเองในภูมิภาค และอีก 20% ถึงจะตัดสินใจบินเที่ยวระยะไกล (ลองฮอลล์) หรือมาแถบเอเชีย

++ฮึดสู้แอร์ไลน์ตะวันออกกลาง
แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ธุรกิจการบินขณะนี้แข่งขันด้านราคากันรุนแรงโดยเฉพาะสายการบินจะจากตะวันออกกลาง กาต้าร์ เอมิเรตส์ เอทิฮัด ที่ใช้ราคาเป็นแรงจูงใจดึงดูดผู้โดยสาร ซึ่งไม่ว่าจะเป็นจุดบินจากอิตาลีหรือยุโรป สายการบินตะวันออก กลางจะมีจุดบินแทบทุกเมือง มีเที่ยวบินเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นสแทรตทิจิก และใช้จุดนี้เกทับการบินไทยในการโฆษณาว่าเป็นวันสต็อป ขณะที่การบินไทยมีบินเพียง 2 เมือง คือ โรมและมิลาน สัปดาห์ละ 8 เที่ยวบิน

ดังนั้นการบินไทยจึงต้องอาศัยจุดแข็งที่ว่าเป็นสายการบินเดียวที่บินตรงเข้ากรุงเทพฯ และใช้เครื่องบินที่ทันสมัย เอ 350 ขณะเดียวกันก็อาศัยสายการบินพันธมิตร สายการบินอะลิตาเลีย บินจากเมืองอื่นๆ เข้ามาต่อเครื่องที่โรมหรือมิลานเข้าไทย โดยจ่ายค่าตั๋ว 30 ยูโร เป็นการแก้เกมสายการบินคู่แข่งที่เขามีเที่ยวบินที่เสิร์ฟผู้โดยสารได้มากกว่า อีกทั้งยังใช้กลยุทธ์สร้างพันธมิตรการบินเข้ามาช่วยคัลเวอร์จุดบินอื่น โดยขายตั๋วเพิ่มอีก 50-100 ยูโร เพื่อให้ผู้โดยสารบินจากเมืองต่างๆ ในยุโรปมาต่อเครื่องการบิน ไทยที่เยอรมนีหรือฝรั่งเศสผ่าน 4 เกตเวย์บินตรงเข้าไทยในวันที่ไม่มีเที่ยวบิน

นอกจากนี้ถ้าโฟกัสไปที่ตลาดอิตาลี พบว่านักท่องเที่ยวจากอิตาลีเดินทางมาเยือนประเทศไทย 2.6 แสนคน เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งการบินไทยได้มีความร่วมมือกับททท.ในการส่งเสริมตลาดร่วมกัน ปีที่แล้วมีการจัดแพ็กเกจขายตลาดฮันนีมูนจำนวน 2,500 คู่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ปีนี้จะมีความร่วมมือดด้วยการจัดแฟมทริปพาฟร้อนต์ไลน์เอเยนต์จากมิลานและโรม เดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวไทยทั้ง 5 ภูมิภาคจำนวน 110 คน ระหว่างวันที่ 16-23 ตุลาคม เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย

หลากหลายกลยุทธ์ที่การบินไทยงัดขึ้นมาสู้ศึกในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ธุรกิจกลับมาทำกำไร ในขณะที่สายการบินในระดับพรีเมียร์ทั่วโลกกำลังตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน !!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,293 วันที่ 3 - 6 กันยายน พ.ศ. 2560