ทีเอ็มบีจับลูกค้ารายใหญ่ไซซ์กลางขยายซัพพลายเชน รุกกลุ่มศักยภาพ-ลูกค้าเดิม หลังเศรษฐกิจยังฟื้นไม่ชัด ตั้งเป้าสินเชื่อโต 10-13% คาดพอร์ตแตะ 4 แสนล้านบาท รายได้โต 6% กดเอ็นพีแอลไม่เกิน 1.7%
นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบี กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจขนาดใหญ่ในปีนี้ ธนาคารยังคงเน้นการเติบโตแบบระมัดระวัง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตยังค่อนข้างช้า และยังมีปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทำให้ธนาคารต้องระมัดระวัง จะเน้นเติบโตกับกลุ่มลูกค้าเดิม และเน้นในกลุ่มธุรกิจที่ไปได้ดี เช่น กลุ่มส่งออก ยาง และรับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ยังระมัดระวัง หรือเห็นการชะลอตัว จะเป็นกลุ่มเหล็ก
สำหรับเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อปีนี้อยู่ที่ 10-13% จากยอดสินเชื่อคงค้างปัจจุบันอยู่ที่ 3.55 แสนล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปียอดคงค้างจะอยู่ที่เกือบ 4 แสนล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 6% จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ถือว่าอยู่ในระดับตํ่า ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายเข้มงวดของธนาคาร ส่งผลให้เอ็นพีแอล 1.7% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนอยู่ที่ 1.6% คาดว่าทั้งปีจะทรงตัวอยู่ในระดับเดิม
กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ของธนาคาร แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มลูกค้าที่มียอดขายตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป หรือกลุ่ม Multi-Corporate Banking (MB) ที่มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1.8-1.9 แสนล้านบาท 2.กลุ่มลูกค้าที่มียอดขายตั้งแต่ 1,000-5,000 ล้านบาท Corporate Banking (CB) ปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท และ 3.กลุ่มลูกค้าที่มียอดขายตั้งแต่ 100-1,000 ล้านบาท หรือกลุ่ม Business Banking (BB) มีพอร์ตคงค้างเกือบ 1 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ดี กลุ่มลูกค้าที่ธนาคารจะให้ความสำคัญและจะขยายมากขึ้น จะเป็นกลุ่มลูกค้าขนาดกลางหรือกลุ่ม CB เนื่องจากยังมีโอกาสขยายตัวจากระดับกลางลงล่าง และยังเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ คาดว่าจะสามารถขยายพอร์ตในกลุ่มดังกล่าวเป็น 9 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีอยู่ 8 หมื่นล้านบาท ส่วนกลุ่มลูกค้า BB ยังเป็นกลุ่มที่ต้องระมัดระวังเล็กน้อย ส่วนกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่เห็นแนวโน้มการขยายการลงทุนไปต่างประเทศสะท้อนผ่านตัวเลข TDI ที่ขยายตัวเกือบ 100%
“เราต้องการเป็นธนาคารที่เป็น Need-Based ที่เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจได้อย่างแท้จริง รวมทั้งมีกระบวนการทำธุรกรรมเรียบง่ายตั้งแต่ต้นจนจบ โดยในครึ่งปีแรกมียอดธุรกรรมต่างประเทศกว่า 1 ล้านล้านบาท ทำให้ทั้งปีรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมาย 6%”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560