แบงก์พาณิชย์ลุยรื้อสาขา มุ่งหน้าAutoBranch
ธนาคารพาณิชย์ไม่อยู่นิ่ง ลุยปรับโฉมสาขาใหม่ มัดใจลูกค้าใช้บริการระยะยาว รองรับยุคดิจิตอลไล่ล่า ทุ่มงบประมาณจำนวนมากนำเทคโนโลยีและเครื่องอัตโนมัติให้บริการ ไทยพาณิชย์ ส่ง SCB EXPRESS นำร่อง4 สาขา “กรุงศรีอยุธยา-กรุงไทย” ดึง VTM ช่วยลูกค้าทำธุรกรรมด้วยตัวเอง
“ธุรกิจธนาคารของไทยอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ซึ่งเป็นยุคที่การสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า เป็นหัวใจสำคัญ” นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคล และผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์
[caption id="attachment_136231" align="aligncenter" width="503"]
สารัชต์ รัตนาภรณ์[/caption]
ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาช่องทางในการให้บริการที่เข้าถึงลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่สร้างประสบการณ์ทางการเงินใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุค 4.0 ซึ่งสะท้อนผ่านตัวเลขทำธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้น 121% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคนหันมาทำธุรกรรมผ่านเครื่องเพิ่มขึ้น 8% ส่งผลให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านสาขาลดลง 8%
จากแนวโน้มดังกล่าวประกอบกับธนาคารนำฐานข้อมูล Big Data มาวิเคราะห์ข้อมูลฐานลูกค้า 14 ล้านราย จึงเกิดเป็นโมเดล SCB EXPRESS สาขารูปแบบอัตโนมัติรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการทำธุรกรรมด้วยตัวเอง 85% เช่น จ่ายบิล ฝาก ถอน โอน จ่าย
ในอนาคตลูกค้าสามารถเปิดบัญชี ผ่านเครื่อง VTM (Virtual Teller Machine) และเครื่อง ATM-CDM และอีก 15% ที่ต้องการพบปะพนักงาน และยังคุ้นชินกับการใช้เงินสดอยู่ จึงมีพนักงานประจำอยู่เพียง 2-3 คนต่อสาขาเท่านี้
SCB EXPRESS จึงเป็นสาขาที่ผสมผสานระหว่าง Digital Banking with Human Touch หรือเป็นการผสมระหว่าง Physical และ Digital เข้าด้วยกัน โดยธนาคารได้เปิดนำร่องไปแล้ว 4 แห่ง อาทิ เมกาบางนา ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ แฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา และเดอะมอลล์ ท่าพระ ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างดีมีปริมาณธุรกรรม 500 รายการต่อวัน เทียบสาขาปกติเฉลี่ย 800-1,000 รายการต่อวัน
ธนาคารเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อขยาย SCB EXPRESS เพิ่มเติมให้ครบ 15 แห่ง เน้นในพื้นที่กลางใจเมืองกรุงเทพฯ ภายในปี 2560 และมีแผนที่จะขยายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 200-300 แห่ง ภายในปี 2561 ปัจจุบันธนาคารมีสาขา 1,170 แห่ง
[caption id="attachment_201725" align="aligncenter" width="503"]
พงษ์อนันต์ ธณัติไตร[/caption]
“เทรนด์หรือทิศทางคนหันไปใช้ออนไลน์กันหมดแต่ก็ต้องยอมรับว่าเงินสดก็คงไม่ได้หายไป 100% เช่นกัน”
นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์นโยบายสาขาปีนี้ ธนาคารจะเน้นปรับรูปแบบสาขาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าและปริมาณธุรกรรมสาขาให้เหมาะสม โดยเน้นประสิทธิภาพการทำงานและบริการลูกค้าผ่านการนำเครื่อง VTM มาใช้มากขึ้นรองรับพฤติกรรมลูกค้าไปสู่ดิจิตอลมากขึ้นแผนปีนี้จะเปิดใหม่จำนวน 10 แห่ง และปิด 6 แห่งสาขารวม 662 แห่ง
นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ เครือข่ายลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็กธนาคารธนชาต กล่าวว่า นโยบายสาขาปีนี้จะยังคงรักษาจำนวนสาขาอยู่ที่ 530 แห่ง โดยธนาคารอยู่ระหว่างทำแผนโมเดลสาขาที่เหมาะสม ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมเรื่องคนและเครื่องมือเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยให้บริการลูกค้า เนื่องจากธนาคารต้องปรับตามพฤติกรรมลูกค้าให้ทัน โดยต้องเป็นทั้ง Physical และ Digital ให้ลูกค้า
ด้านนายเชิดชัย ชมภูนุกูลรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริการสายงานเครือข่ายธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อยธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารจะนำเทคโนโลยีหรือเครื่องมืออัตโนมัติเข้ามาใช้มากขึ้นแทนการทำธุรกรรมการเงินแบบเดิมๆ ทั้งนี้ คาดว่ารูปแบบสาขาจะมีความชัดเจนภายในปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560
“ธุรกิจธนาคารของไทยอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ซึ่งเป็นยุคที่การสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า เป็นหัวใจสำคัญ” นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคล และผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์
[caption id="attachment_136231" align="aligncenter" width="503"]
ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาช่องทางในการให้บริการที่เข้าถึงลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่สร้างประสบการณ์ทางการเงินใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุค 4.0 ซึ่งสะท้อนผ่านตัวเลขทำธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้น 121% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคนหันมาทำธุรกรรมผ่านเครื่องเพิ่มขึ้น 8% ส่งผลให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านสาขาลดลง 8%
จากแนวโน้มดังกล่าวประกอบกับธนาคารนำฐานข้อมูล Big Data มาวิเคราะห์ข้อมูลฐานลูกค้า 14 ล้านราย จึงเกิดเป็นโมเดล SCB EXPRESS สาขารูปแบบอัตโนมัติรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการทำธุรกรรมด้วยตัวเอง 85% เช่น จ่ายบิล ฝาก ถอน โอน จ่าย
ในอนาคตลูกค้าสามารถเปิดบัญชี ผ่านเครื่อง VTM (Virtual Teller Machine) และเครื่อง ATM-CDM และอีก 15% ที่ต้องการพบปะพนักงาน และยังคุ้นชินกับการใช้เงินสดอยู่ จึงมีพนักงานประจำอยู่เพียง 2-3 คนต่อสาขาเท่านี้
SCB EXPRESS จึงเป็นสาขาที่ผสมผสานระหว่าง Digital Banking with Human Touch หรือเป็นการผสมระหว่าง Physical และ Digital เข้าด้วยกัน โดยธนาคารได้เปิดนำร่องไปแล้ว 4 แห่ง อาทิ เมกาบางนา ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ แฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา และเดอะมอลล์ ท่าพระ ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างดีมีปริมาณธุรกรรม 500 รายการต่อวัน เทียบสาขาปกติเฉลี่ย 800-1,000 รายการต่อวัน
ธนาคารเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อขยาย SCB EXPRESS เพิ่มเติมให้ครบ 15 แห่ง เน้นในพื้นที่กลางใจเมืองกรุงเทพฯ ภายในปี 2560 และมีแผนที่จะขยายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 200-300 แห่ง ภายในปี 2561 ปัจจุบันธนาคารมีสาขา 1,170 แห่ง
[caption id="attachment_201725" align="aligncenter" width="503"]
“เทรนด์หรือทิศทางคนหันไปใช้ออนไลน์กันหมดแต่ก็ต้องยอมรับว่าเงินสดก็คงไม่ได้หายไป 100% เช่นกัน”
นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์นโยบายสาขาปีนี้ ธนาคารจะเน้นปรับรูปแบบสาขาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าและปริมาณธุรกรรมสาขาให้เหมาะสม โดยเน้นประสิทธิภาพการทำงานและบริการลูกค้าผ่านการนำเครื่อง VTM มาใช้มากขึ้นรองรับพฤติกรรมลูกค้าไปสู่ดิจิตอลมากขึ้นแผนปีนี้จะเปิดใหม่จำนวน 10 แห่ง และปิด 6 แห่งสาขารวม 662 แห่ง
นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล รองกรรมการผู้จัดการ เครือข่ายลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็กธนาคารธนชาต กล่าวว่า นโยบายสาขาปีนี้จะยังคงรักษาจำนวนสาขาอยู่ที่ 530 แห่ง โดยธนาคารอยู่ระหว่างทำแผนโมเดลสาขาที่เหมาะสม ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมเรื่องคนและเครื่องมือเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยให้บริการลูกค้า เนื่องจากธนาคารต้องปรับตามพฤติกรรมลูกค้าให้ทัน โดยต้องเป็นทั้ง Physical และ Digital ให้ลูกค้า
ด้านนายเชิดชัย ชมภูนุกูลรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริการสายงานเครือข่ายธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อยธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารจะนำเทคโนโลยีหรือเครื่องมืออัตโนมัติเข้ามาใช้มากขึ้นแทนการทำธุรกรรมการเงินแบบเดิมๆ ทั้งนี้ คาดว่ารูปแบบสาขาจะมีความชัดเจนภายในปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560