สตง. ไฟเขียว! “เน็ตชายขอบ” 1.3 หมื่นล้าน
“สตง.” เตรียมส่งผลตรวจสอบ “เน็ตชายขอบ” มูลค่า 1.3 หมื่นล้าน ให้ กสทช. สัปดาห์นี้ ...คาดผ่านฉลุย วงในรอลุ้นผลประชุมบอร์ดสัปดาห์หน้า มั่นใจเดินหน้าต่อ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292 วันที่ 31 ส.ค. - 2 ก.ย. 2560 รายงานว่า นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้ สตง. กำลังเร่งตรวจสอบโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ หรือ โครงการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐาน ซึ่งใช้งบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด อาทิเช่น ข้อสงสัยเรื่อง “ถ้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเอง ราคาจะแพงกว่าอย่างไร?” คาดว่า ภายในสัปดาห์นี้ทุกอย่างจะแล้วเสร็จ
[caption id="attachment_202800" align="aligncenter" width="480"]
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)[/caption]
“ช้ามากไม่ได้ เพราะ สตง. ในฐานะทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าเห็นว่า โครงการนี้มีข้อสงสัยก็ต้องติงหน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ เราไม่เคยเบรกโครงการ ถ้าหน่วยงานเชื่อมั่นคิดว่า กระบวนการต่าง ๆ ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ก็ไม่ต้องกังวล” นายพิศิษฐ์ กล่าว
ขณะที่ แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้จะเดินหน้าต่อ เพียงแต่ผู้ชนะประมูลรอเซ็นสัญญากับสำนักงาน กสทช. และคิดว่า ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะข้อมูลที่สำนักงาน กสทช. ส่งตอบไปนั้น มีเหตุผลและครบถ้วน
สำหรับโครงการ USO จำนวน 3,920 หมู่บ้าน แบ่งเป็น 8 สัญญา วงเงิน 13,614.61 ล้านบาท ได้เปิดประมูลไปแล้วนั้น เสนอราคาต่ำสุด 12,989.68 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 624.93 ล้านบาท หรือ 4.59% โดย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้จำนวน 3 สัญญา มูลค่า 6,485 ล้านบาท, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชัน จำกัด จำนวน 3 สัญญา มูลค่า 4,130.54 ล้านบาท, บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 สัญญา มูลค่า 504 ล้านบาท และบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเทล จำนวน 1 สัญญา มูลค่า 1,868 ล้านบาท
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292 วันที่ 31 ส.ค. - 2 ก.ย. 2560 รายงานว่า นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ขณะนี้ สตง. กำลังเร่งตรวจสอบโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ หรือ โครงการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐาน ซึ่งใช้งบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด อาทิเช่น ข้อสงสัยเรื่อง “ถ้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเอง ราคาจะแพงกว่าอย่างไร?” คาดว่า ภายในสัปดาห์นี้ทุกอย่างจะแล้วเสร็จ
[caption id="attachment_202800" align="aligncenter" width="480"]
“ช้ามากไม่ได้ เพราะ สตง. ในฐานะทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าเห็นว่า โครงการนี้มีข้อสงสัยก็ต้องติงหน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ เราไม่เคยเบรกโครงการ ถ้าหน่วยงานเชื่อมั่นคิดว่า กระบวนการต่าง ๆ ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ก็ไม่ต้องกังวล” นายพิศิษฐ์ กล่าว
ขณะที่ แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้จะเดินหน้าต่อ เพียงแต่ผู้ชนะประมูลรอเซ็นสัญญากับสำนักงาน กสทช. และคิดว่า ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะข้อมูลที่สำนักงาน กสทช. ส่งตอบไปนั้น มีเหตุผลและครบถ้วน
สำหรับโครงการ USO จำนวน 3,920 หมู่บ้าน แบ่งเป็น 8 สัญญา วงเงิน 13,614.61 ล้านบาท ได้เปิดประมูลไปแล้วนั้น เสนอราคาต่ำสุด 12,989.68 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 624.93 ล้านบาท หรือ 4.59% โดย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้จำนวน 3 สัญญา มูลค่า 6,485 ล้านบาท, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชัน จำกัด จำนวน 3 สัญญา มูลค่า 4,130.54 ล้านบาท, บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 สัญญา มูลค่า 504 ล้านบาท และบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเทล จำนวน 1 สัญญา มูลค่า 1,868 ล้านบาท
