แก้โจทย์ที่ดิน‘ซีบีดี’หายาก ‘แมกโนเลีย’เคาะประตูเจ้าบ้านร่วมพัฒนา
ยังร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะทำเลพาร์มแอร์เรียใจกลางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันเริ่มหายากสวนทางกับกำลังซื้อที่ยังมีอยู่แลขณะเดียวกันการพัฒนาคอนโดมิเนียมให้ตอบสนองความต้องการลูกค้าเป็นสิ่งจำเป็น
นายอัษฏา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการวิสซ์ดอมบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันคอนโดมิเนียมว่ายังมีความต้องการโดยเฉพาะตลาดบน ทำเลใจกลางธุรกิจ แต่ที่ดินได้มายากขึ้น เนื่องจากเจ้าของบ้าน ล้วนเป็นเศรษฐีเก่า เริ่มหวงที่ดิน และมองถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้น จึงไม่ต้องรีบขาย ขณะที่ ผู้ประกอบการมองว่าจะทำอย่างไรจึงจะนำที่ดินเหล่านั้นออกมาพัฒนา เมื่อหาที่ดินใจกลางเมืองไม่ได้ ก็ต้องขยายออกไปนอกเมืองซึ่ง กำลังซื้อมีแต่ สถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ ดังนั้นทางออก ที่จะได้ที่ดินบริษัท จะใช้เทคนิค เจรจากับเจ้าของบ้านเก่า นำที่ดินออกพัฒนาร่วมกันขณะเดียวกัน ต้องเจรจากับรัฐปลดล็อกผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ให้พัฒนาได้มากขึ้น
[caption id="attachment_201231" align="aligncenter" width="335"]
อัษฏา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการวิสซ์ดอมบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์เปอร์เรชั่นจำกัด[/caption]
++ขยายตัวต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และภาพรวมธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2560 ว่ามีการขยายตัวดีอย่างต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา จากหลายปัจจัยอาทิ การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าหลายสายของภาครัฐ การเร่งเปิดตัวของผู้ประกอบการ จำนวนหลายรายโดยมีคอนโดมิเนียมเป็นตลาดหลักที่ใหญ่ที่สุดประมาณ 60% ของตลาดรวม ในอีกด้านหนึ่งคือการขยายตัวของภาคอสังหาฯ ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากส่งผลโดยตรงต่อราคาที่อยู่อาศัย จากปัจจุบัน โอกาสเกิดโครงการในเมืองลดลงแต่เกิดปรากฏการณ์เปิดโครงการมากขึ้นในช่วงส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ดังนั้นทิศทางการพัฒนาที่เกิดขึ้นในกทม.และปริมณฑลได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบการอยู่อาศัยของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบและมีกระแสตอบรับสูงได้แก่ โครงการวิสซ์ดอมสเตชั่นรัชดา-ท่าพระ โครงการวิสซ์ดอมอเวนิวรัชดา-ลาดพร้าว โครงการวิสซ์ดอมปุณณวิถี สเตชั่น โครงการวิสซ์ดอมดิเอ็กซ์คลูซีฟ โครงการแมกโนเลียส์เฟรนช์คันทรี เขาใหญ่โรงแรมยูเขาใหญ่เป็นต้น
++เลือกลูกค้าตรงกลุ่ม
ขณะที่ ความสำเร็จ ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ"วิสซ์ดอม อเวนิวรัชดา-ลาดพร้าว" เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560ที่ผ่านมา แต่ลูกค้าให้ความสนใจจองไปแล้ว 90% สวนทางกับหลายค่ายที่มียอดเหลือขายจำนวนมากและถูกสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ เรื่องนี้ นายอัษฏา อธิบายว่า ตัวแปรที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ ทำทุกอย่างให้ตรงใจลูกค้า เริ่มจาก"ทำเล"ติดสถานีรถไฟฟ้าที่สถานีเอ็มอาร์ทีลาดพร้าวและกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเกิดขึ้นทำให้บริเวณนี้จะเป็นนิวซีบีดีแห่งใหม่ เชื่อมรัชดา-พระราม9 ขณะเดียวกัน ต้องเลือกลูกค้าให้"ตรงกลุ่ม"เป้าหมายนั่นคือ กลุ่มกลาง-บนที่มีกำลังซื้อจริง การออกแบบฟังก์ชันตรงกับความต้องการลูกค้ารวมถึงปัจจุบันทุกโครงการต้องมีนวัตกรรม และ กล้ายืดอกรับประกันโครงสร้างอาคารนาน 30ปี ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่ ช่วยดึงลูกค้า ซึ่งบริษัทนำกลยุทธ์นี้มาใช้ทุกโครงการรวมทั้ง วิสซ์ดอม รัชดา-ท่าพระที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
สำหรับการแข่งขัน บริษัทไม่มองบริษัทอื่นว่าเป็นอย่างไร แต่จะมองลูกค้าเป็นหลักว่าต้องการอะไร จึงไม่รีบผลิตออกมาจำนวนมากๆ แต่จะเน้นความพิถีพิถันมากกว่า ขณะเดียวกัน มองว่าบริษัทพัฒนาที่ดินทุกค่ายควรเป็นพันธมิตรกันมากกว่าคู่แข่ง
+++ลุยต่อ"อโศก-เยาวราช"
นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัวอีก 5-6โครงการในปีหน้า มูลค่า 20,000 ล้านบาท ทำเล เยาวราช ใกล้เอ็มอาร์ทีหัวลำโพง ซึ่งมองว่าเป็นทำเลที่ดี ความต้องการลูกค้าสูง รูปแบบจึงออกมาเป็น ไชน่าทาวน์เพื่อสอดรับกับกลุ่มลูกค้าย่านดังกล่าว โครงการนี้มี มูลค่า 4,000 ล้าน ก่อสร้างจำนวน 200 กว่าหน่วย ราคากว่า 7-20 ล้านบาทปัจจุบันลูกค้าจองเต็มหมดแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าจากจีน อีกทำเลย่านอโศกเยื้องศูนย์การประชุมสิริกิติ์มูลค่า 8,000 ล้านบาทขายตารางเมตรละ กว่า 200,000 บาท ราคาที่ดินตารางวาละเกือบ 2 ล้านบาท ส่วนแนวราบจะเป็นทาวน์โอม ซึ่งเน้นเกาะรถไฟฟ้าทั้งที่เปิดให้บริการแล้ว แต่ อาจจะหลบอยู่ในซอย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560
นายอัษฏา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการวิสซ์ดอมบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันคอนโดมิเนียมว่ายังมีความต้องการโดยเฉพาะตลาดบน ทำเลใจกลางธุรกิจ แต่ที่ดินได้มายากขึ้น เนื่องจากเจ้าของบ้าน ล้วนเป็นเศรษฐีเก่า เริ่มหวงที่ดิน และมองถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้น จึงไม่ต้องรีบขาย ขณะที่ ผู้ประกอบการมองว่าจะทำอย่างไรจึงจะนำที่ดินเหล่านั้นออกมาพัฒนา เมื่อหาที่ดินใจกลางเมืองไม่ได้ ก็ต้องขยายออกไปนอกเมืองซึ่ง กำลังซื้อมีแต่ สถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ ดังนั้นทางออก ที่จะได้ที่ดินบริษัท จะใช้เทคนิค เจรจากับเจ้าของบ้านเก่า นำที่ดินออกพัฒนาร่วมกันขณะเดียวกัน ต้องเจรจากับรัฐปลดล็อกผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ให้พัฒนาได้มากขึ้น
[caption id="attachment_201231" align="aligncenter" width="335"]
++ขยายตัวต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และภาพรวมธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2560 ว่ามีการขยายตัวดีอย่างต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา จากหลายปัจจัยอาทิ การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าหลายสายของภาครัฐ การเร่งเปิดตัวของผู้ประกอบการ จำนวนหลายรายโดยมีคอนโดมิเนียมเป็นตลาดหลักที่ใหญ่ที่สุดประมาณ 60% ของตลาดรวม ในอีกด้านหนึ่งคือการขยายตัวของภาคอสังหาฯ ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากส่งผลโดยตรงต่อราคาที่อยู่อาศัย จากปัจจุบัน โอกาสเกิดโครงการในเมืองลดลงแต่เกิดปรากฏการณ์เปิดโครงการมากขึ้นในช่วงส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ดังนั้นทิศทางการพัฒนาที่เกิดขึ้นในกทม.และปริมณฑลได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบการอยู่อาศัยของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบและมีกระแสตอบรับสูงได้แก่ โครงการวิสซ์ดอมสเตชั่นรัชดา-ท่าพระ โครงการวิสซ์ดอมอเวนิวรัชดา-ลาดพร้าว โครงการวิสซ์ดอมปุณณวิถี สเตชั่น โครงการวิสซ์ดอมดิเอ็กซ์คลูซีฟ โครงการแมกโนเลียส์เฟรนช์คันทรี เขาใหญ่โรงแรมยูเขาใหญ่เป็นต้น
++เลือกลูกค้าตรงกลุ่ม
ขณะที่ ความสำเร็จ ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ"วิสซ์ดอม อเวนิวรัชดา-ลาดพร้าว" เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2560ที่ผ่านมา แต่ลูกค้าให้ความสนใจจองไปแล้ว 90% สวนทางกับหลายค่ายที่มียอดเหลือขายจำนวนมากและถูกสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ เรื่องนี้ นายอัษฏา อธิบายว่า ตัวแปรที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ ทำทุกอย่างให้ตรงใจลูกค้า เริ่มจาก"ทำเล"ติดสถานีรถไฟฟ้าที่สถานีเอ็มอาร์ทีลาดพร้าวและกำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเกิดขึ้นทำให้บริเวณนี้จะเป็นนิวซีบีดีแห่งใหม่ เชื่อมรัชดา-พระราม9 ขณะเดียวกัน ต้องเลือกลูกค้าให้"ตรงกลุ่ม"เป้าหมายนั่นคือ กลุ่มกลาง-บนที่มีกำลังซื้อจริง การออกแบบฟังก์ชันตรงกับความต้องการลูกค้ารวมถึงปัจจุบันทุกโครงการต้องมีนวัตกรรม และ กล้ายืดอกรับประกันโครงสร้างอาคารนาน 30ปี ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่ ช่วยดึงลูกค้า ซึ่งบริษัทนำกลยุทธ์นี้มาใช้ทุกโครงการรวมทั้ง วิสซ์ดอม รัชดา-ท่าพระที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
สำหรับการแข่งขัน บริษัทไม่มองบริษัทอื่นว่าเป็นอย่างไร แต่จะมองลูกค้าเป็นหลักว่าต้องการอะไร จึงไม่รีบผลิตออกมาจำนวนมากๆ แต่จะเน้นความพิถีพิถันมากกว่า ขณะเดียวกัน มองว่าบริษัทพัฒนาที่ดินทุกค่ายควรเป็นพันธมิตรกันมากกว่าคู่แข่ง
+++ลุยต่อ"อโศก-เยาวราช"
นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัวอีก 5-6โครงการในปีหน้า มูลค่า 20,000 ล้านบาท ทำเล เยาวราช ใกล้เอ็มอาร์ทีหัวลำโพง ซึ่งมองว่าเป็นทำเลที่ดี ความต้องการลูกค้าสูง รูปแบบจึงออกมาเป็น ไชน่าทาวน์เพื่อสอดรับกับกลุ่มลูกค้าย่านดังกล่าว โครงการนี้มี มูลค่า 4,000 ล้าน ก่อสร้างจำนวน 200 กว่าหน่วย ราคากว่า 7-20 ล้านบาทปัจจุบันลูกค้าจองเต็มหมดแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าจากจีน อีกทำเลย่านอโศกเยื้องศูนย์การประชุมสิริกิติ์มูลค่า 8,000 ล้านบาทขายตารางเมตรละ กว่า 200,000 บาท ราคาที่ดินตารางวาละเกือบ 2 ล้านบาท ส่วนแนวราบจะเป็นทาวน์โอม ซึ่งเน้นเกาะรถไฟฟ้าทั้งที่เปิดให้บริการแล้ว แต่ อาจจะหลบอยู่ในซอย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560
