แห่ผุดคอนโดฯฝั่งธน ยอดสะสม2หมื่นยูนิต
คอลลิเออร์สฯ ชี้พื้นที่กรุงเทพฯโซนตะวันตกพลิกโฉมตลาดคอนโดมิเนียมและศูนย์ การค้า ตั้งแต่ปี 57 จนถึงกรกฎาคมปีนี้มีจำนวนห้องชุดสะสมกว่า 2 หมื่นหน่วย ด้านราคาที่ดินบางทำเลขยับขึ้น 2 แสนบาทต่อตร.ว.
นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินที่กำลังก่อสร้างอยู่และมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2562-2563 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพื้นที่ตามแนวเส้นทางคือพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันตกหรือฝั่ง ธนบุรีค่อนข้างมาก ที่เห็นได้อย่างชัดเจนมีการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมกันมากมาย โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ปี 2558 คอนโด มิเนียมมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
[caption id="attachment_130975" align="aligncenter" width="503"]
สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย[/caption]
“ก่อนหน้านี้อาจจะมีโครงการเปิดขายใหม่ในพื้นที่ตามแนวถนนประชาราษฎร์สาย 2 เท่านั้น เพราะว่าผู้ประกอบการอาจจะให้ความสำคัญกับสถานีเตาปูนที่เป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 สาย แต่หลังจากที่การก่อสร้างคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์และเพชรเกษม ผู้ประกอบการหลายรายจึงเปิดขายโครงการในพื้นที่ตามแนวถนนทั้ง 2 เส้นนี้มากขึ้น คอนโดมิเนียมสะสมตั้งแต่ปี 2557 ถึงเดือนกรกฎาคม 2560 อยู่ที่ประมาณ 20,750 ยูนิตและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอนาคต”
สำหรับพื้นที่ที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจค่อนข้างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาคือพื้นที่ตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ เพราะเป็นพื้นที่ที่ราคาที่ดินอาจจะยังไม่ได้สูงเกินไป แต่ก็เริ่มปรับขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีการปรับขึ้นไปที่ประมาณ 2 แสนบาทต่อตารางวาแล้วเกือบตลอดเส้นทาง อาจจะมีบางพื้นที่ที่มีราคาที่ดินตํ่ากว่า 2 แสนบาทต่อตารางวาแต่ก็ไม่มาก และเป็นเพราะมีข้อจำกัดในการพัฒนาบางเรื่อง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 ผู้ประกอบการเริ่มเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้น โดยมีการขยายพื้นที่ไปทางถนนเพชรเกษมมากขึ้น และยังมีอีกหลายโครงการที่ทยอยเปิดขายใหม่ในปีนี้ หรือปีหน้า ทำให้พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากอีกพื้นที่หนึ่ง คอนโดมิเนียมสะสมจากปี 2557 เป็นต้นมาอยู่ที่ประมาณ 20,750 ยูนิต ขายไปได้แล้วประมาณ 77% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ในช่วง 70,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร อาจจะมีบางโครงการที่ขายตํ่าหรือสูงกว่าช่วงราคานี้ แต่มีแนวโน้มที่ราคาขายจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคตตามความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินรวมไปถึงราคาที่ดินที่ปรับขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
“ศักยภาพของพื้นที่ฝั่งธนบุรีจะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการก่อสร้างของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์และเพชรเกษม รวมไปถึงเส้นทางรถไฟฟ้าสาย อื่นๆ เช่น สายสีส้มตะวันตก สายสีม่วงตอนใต้ ที่มีการอนุมัติและกำลังจะเริ่มก่อสร้างในอนาคต รวมไปถึงสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยายไปยังพุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางจะเข้ามาเสริมศักยภาพของพื้นที่ฝั่งธนบุรีให้มากขึ้นไปอีก รวมไปถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ริมแม่นํ้าเจ้าพระยาและเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีทองที่เข้ามาเพิ่มเติมในอนาคต”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560
นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินที่กำลังก่อสร้างอยู่และมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2562-2563 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพื้นที่ตามแนวเส้นทางคือพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันตกหรือฝั่ง ธนบุรีค่อนข้างมาก ที่เห็นได้อย่างชัดเจนมีการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมกันมากมาย โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ปี 2558 คอนโด มิเนียมมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
[caption id="attachment_130975" align="aligncenter" width="503"]
“ก่อนหน้านี้อาจจะมีโครงการเปิดขายใหม่ในพื้นที่ตามแนวถนนประชาราษฎร์สาย 2 เท่านั้น เพราะว่าผู้ประกอบการอาจจะให้ความสำคัญกับสถานีเตาปูนที่เป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 สาย แต่หลังจากที่การก่อสร้างคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์และเพชรเกษม ผู้ประกอบการหลายรายจึงเปิดขายโครงการในพื้นที่ตามแนวถนนทั้ง 2 เส้นนี้มากขึ้น คอนโดมิเนียมสะสมตั้งแต่ปี 2557 ถึงเดือนกรกฎาคม 2560 อยู่ที่ประมาณ 20,750 ยูนิตและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอนาคต”
สำหรับพื้นที่ที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจค่อนข้างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาคือพื้นที่ตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ เพราะเป็นพื้นที่ที่ราคาที่ดินอาจจะยังไม่ได้สูงเกินไป แต่ก็เริ่มปรับขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีการปรับขึ้นไปที่ประมาณ 2 แสนบาทต่อตารางวาแล้วเกือบตลอดเส้นทาง อาจจะมีบางพื้นที่ที่มีราคาที่ดินตํ่ากว่า 2 แสนบาทต่อตารางวาแต่ก็ไม่มาก และเป็นเพราะมีข้อจำกัดในการพัฒนาบางเรื่อง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 ผู้ประกอบการเริ่มเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้น โดยมีการขยายพื้นที่ไปทางถนนเพชรเกษมมากขึ้น และยังมีอีกหลายโครงการที่ทยอยเปิดขายใหม่ในปีนี้ หรือปีหน้า ทำให้พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากอีกพื้นที่หนึ่ง คอนโดมิเนียมสะสมจากปี 2557 เป็นต้นมาอยู่ที่ประมาณ 20,750 ยูนิต ขายไปได้แล้วประมาณ 77% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ในช่วง 70,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร อาจจะมีบางโครงการที่ขายตํ่าหรือสูงกว่าช่วงราคานี้ แต่มีแนวโน้มที่ราคาขายจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคตตามความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินรวมไปถึงราคาที่ดินที่ปรับขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
“ศักยภาพของพื้นที่ฝั่งธนบุรีจะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการก่อสร้างของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์และเพชรเกษม รวมไปถึงเส้นทางรถไฟฟ้าสาย อื่นๆ เช่น สายสีส้มตะวันตก สายสีม่วงตอนใต้ ที่มีการอนุมัติและกำลังจะเริ่มก่อสร้างในอนาคต รวมไปถึงสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยายไปยังพุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางจะเข้ามาเสริมศักยภาพของพื้นที่ฝั่งธนบุรีให้มากขึ้นไปอีก รวมไปถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ริมแม่นํ้าเจ้าพระยาและเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีทองที่เข้ามาเพิ่มเติมในอนาคต”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560