ลูกค้ากองทุนบุคคลกำไรอู้ฟู่ จัดพอร์ตลงทุนตปท.ผลตอบแทนพุ่ง ยังเชียร์ ‘หุ้นญี่ปุ่น’
กองทุนส่วนบุคคล 7 เดือนแผ่ว โต 5.58 พันล้าน ฟากลูกค้าบุคคลอู้ฟู่ บลจ.ยูโอบีฯเผยกำไรเฉลี่ย 6-7% แนะกระจายลงทุนนอกตั้งแต่ต้นปี ส่วนแนวโน้มปีนี้ยังเชียร์ “หุ้นญี่ปุ่นขนาดกลางและเล็ก” ได้ผลดีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
ภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลในปี 2560 ยังเติบโตต่อเนื่อง ข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า 7 เดือน ปี 2560 กองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) จำนวน 754,967.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,582.13 ล้านบาท หรือ 0.74% จากสิ้นปี 2559 อยู่ที่ 749,384.96 ล้านบาท
ทั้งนี้ ขนาดกองทุนส่วนบุคคลขยับขึ้นสูงสุดแตะ 851,594.27 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2560 เพิ่มขึ้น 102,209 ล้านบาท หรือ 13.64% จากสิ้นปี 2559 ก่อน แต่ผ่านไปเดือนเดียวลดลงมาที่ 741,936 ล้านบาท
ผู้บริหารบลจ.รายหนึ่ง กล่าวว่า เม็ดเงินที่หายไปในระบบมูลค่าแสนล้านบาทในเดือนมิถุนายน 2560 นั้น เป็นเงินกองทุนของสำนักงานบริหารหนี้สาธาณะ (สบน.) ที่ครบอายุการลงทุน ซึ่งเป็นเงินระยะสั้นที่เตรียมไว้รองรับพันธบัตรครบอายุและในช่วงที่ยังไม่ได้ใช้ก็นำเงินเหล่านี้มาหาผลตอบแทนโดยจ้างบลจ.บริหารระยะสั้น เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเงินก้อนนี้จะเข้ามาเป็นช่วงๆ จึงส่งผลต่อขนาดกองทุนส่วนบุคคลในระบบ
อย่างไรก็ตามด้านผลตอบแทนของลูกค้ากองทุนส่วนบุคคลปีนี้กำไรเฉลี่ยค่อนข้างดี สูงกว่าตลาดหุ้นไทย 7 เดือนแรกเพิ่มขึ้นเพียง 2% ขณะที่บลจ.ต่างแนะนำให้ลูกค้ากระจายลงทุนไปต่างประเทศ เนื่องจากคาดการณ์ไว้แล้วว่าหุ้นไทยปีนี้จะไม่หวือหวา หลังจากปี 2559 ดัชนีขึ้นแรง 19%
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย)ฯ เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกพอร์ตลงทุนของลูกค้าส่วนบุคคลส่วนใหญ่ผลตอบแทนเฉลี่ย 6-7% ต่อปี เนื่องจากบริษัทแนะนำให้ลูกค้าจัดพอร์ตกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก โดยเฉพาะกองทุนเปิดยูโอบี สมาร์ท เจแปน สมอล แอนด์ มิด แคป ฟันด์ เน้นลงทุนหุ้นญี่ปุ่นที่มีขนาดกลางและเล็กได้รับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่ง 6 เดือนผลตอบแทนสูงถึง 18.22% และยังแนะนำเพิ่มนํ้าหนักลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
นอกจากนี้แนะนำลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกผ่านกองทุนเปิดยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund รวมทั้งการลงทุนในหลายสินทรัพย์ทั่วโลกผ่านกองทุนเปิดยูไนเต็ด อินคัม โฟกัส ฟันด์ เน้นลงทุนในกองทุนหลัก คือ UNITED GLOBAL DIVERSIFIED-United Income Focus Trust Class USD Dist ปรับพอร์ตให้สอดคล้องสภาวะเพื่อสร้างผลตอบแทนสมํ่าเสมอโดยบริษัทแนะนำพอร์ตลงทุนตามระดับความเสี่ยง 3 กลุ่ม ให้ผลตอบแทนคาดหวัง4, 8และ12% ต่อปีตามลำดับ
สำหรับแนวโน้มหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้บลจ.ยูโอบีฯมองดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,550-1,600 จุดส่วนปีหน้า 1,660-1,700จุด คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปีหน้าเติบโต 10%
ทั้งนี้ 7 เดือนแรกมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนส่วนบุคคลบลจ.ยูโอบีฯลดลงประมาณ 64,033 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ารายหนึ่งถอนเงินกลับไปบริหารเอง ส่งผลให้สินทรัพย์ของบริษัทลดเหลือ 17,604 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมลูกค้าดังกล่าว เงินกองทุนยังเติบโตกว่า 500ล้านบาท โดยจะเพิ่มลูกค้าสถาบันต่อเนื่อง
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บลจ.ทิสโก้ฯ กล่าวว่า ปีนี้ลูกค้ากองทุนส่วนบุคคลได้กำไรดีจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงในหลายตลาดจนทำนิวไฮ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ หากลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้สูงและจัดพอร์ตลงทุนต่างประเทศในสัดส่วนที่มากก็จะได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ช่วงที่เหลือของปีนี้ยังแนะนำเพิ่มนํ้าหนักลงทุนตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากได้รับผลบวกจากค่าเงินเยนที่มีแนวโน้มกลับมาอ่อนค่า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560
ภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลในปี 2560 ยังเติบโตต่อเนื่อง ข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า 7 เดือน ปี 2560 กองทุนส่วนบุคคลมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) จำนวน 754,967.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,582.13 ล้านบาท หรือ 0.74% จากสิ้นปี 2559 อยู่ที่ 749,384.96 ล้านบาท
ทั้งนี้ ขนาดกองทุนส่วนบุคคลขยับขึ้นสูงสุดแตะ 851,594.27 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2560 เพิ่มขึ้น 102,209 ล้านบาท หรือ 13.64% จากสิ้นปี 2559 ก่อน แต่ผ่านไปเดือนเดียวลดลงมาที่ 741,936 ล้านบาท
ผู้บริหารบลจ.รายหนึ่ง กล่าวว่า เม็ดเงินที่หายไปในระบบมูลค่าแสนล้านบาทในเดือนมิถุนายน 2560 นั้น เป็นเงินกองทุนของสำนักงานบริหารหนี้สาธาณะ (สบน.) ที่ครบอายุการลงทุน ซึ่งเป็นเงินระยะสั้นที่เตรียมไว้รองรับพันธบัตรครบอายุและในช่วงที่ยังไม่ได้ใช้ก็นำเงินเหล่านี้มาหาผลตอบแทนโดยจ้างบลจ.บริหารระยะสั้น เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเงินก้อนนี้จะเข้ามาเป็นช่วงๆ จึงส่งผลต่อขนาดกองทุนส่วนบุคคลในระบบ
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย)ฯ เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกพอร์ตลงทุนของลูกค้าส่วนบุคคลส่วนใหญ่ผลตอบแทนเฉลี่ย 6-7% ต่อปี เนื่องจากบริษัทแนะนำให้ลูกค้าจัดพอร์ตกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก โดยเฉพาะกองทุนเปิดยูโอบี สมาร์ท เจแปน สมอล แอนด์ มิด แคป ฟันด์ เน้นลงทุนหุ้นญี่ปุ่นที่มีขนาดกลางและเล็กได้รับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่ง 6 เดือนผลตอบแทนสูงถึง 18.22% และยังแนะนำเพิ่มนํ้าหนักลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
นอกจากนี้แนะนำลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกผ่านกองทุนเปิดยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund รวมทั้งการลงทุนในหลายสินทรัพย์ทั่วโลกผ่านกองทุนเปิดยูไนเต็ด อินคัม โฟกัส ฟันด์ เน้นลงทุนในกองทุนหลัก คือ UNITED GLOBAL DIVERSIFIED-United Income Focus Trust Class USD Dist ปรับพอร์ตให้สอดคล้องสภาวะเพื่อสร้างผลตอบแทนสมํ่าเสมอโดยบริษัทแนะนำพอร์ตลงทุนตามระดับความเสี่ยง 3 กลุ่ม ให้ผลตอบแทนคาดหวัง4, 8และ12% ต่อปีตามลำดับ
สำหรับแนวโน้มหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้บลจ.ยูโอบีฯมองดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,550-1,600 จุดส่วนปีหน้า 1,660-1,700จุด คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ปีหน้าเติบโต 10%
ทั้งนี้ 7 เดือนแรกมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนส่วนบุคคลบลจ.ยูโอบีฯลดลงประมาณ 64,033 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ารายหนึ่งถอนเงินกลับไปบริหารเอง ส่งผลให้สินทรัพย์ของบริษัทลดเหลือ 17,604 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมลูกค้าดังกล่าว เงินกองทุนยังเติบโตกว่า 500ล้านบาท โดยจะเพิ่มลูกค้าสถาบันต่อเนื่อง
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บลจ.ทิสโก้ฯ กล่าวว่า ปีนี้ลูกค้ากองทุนส่วนบุคคลได้กำไรดีจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงในหลายตลาดจนทำนิวไฮ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ หากลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้สูงและจัดพอร์ตลงทุนต่างประเทศในสัดส่วนที่มากก็จะได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ช่วงที่เหลือของปีนี้ยังแนะนำเพิ่มนํ้าหนักลงทุนตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากได้รับผลบวกจากค่าเงินเยนที่มีแนวโน้มกลับมาอ่อนค่า
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560