เซ็นเตอร์พอยท์ฯปรับพื้นที่เพิ่มคนใช้บริการ ผุดลานจัดกิจกรรมเพิ่ม

29 ส.ค. 2560 | 12:55 น.
ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ฯ เดินแผนพัฒนาพื้นที่ต่อเนื่อง  หวังเพิ่มทราฟฟิคคนใช้บริการ ล่าสุดพัฒนา 2 พื้นที่ทั้งภายในและรอบอาคาร  เป็นทางเลือกการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ   LOGO_ CenterPoint of Siam3

นางสาวเปรมินทร์  เลอนรเสฏฐ์ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าฯ ได้สานต่อแผนการพัฒนาพื้นที่มาตลอด 3 ปี ภายใต้แนวคิด ‘Beauty and Fast Trend Shopping Mall’ เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน ซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณทราฟฟิคภายในและโดยรอบศูนย์การค้าฯ เพิ่มขึ้นกว่า 33% จากช่วงก่อนปรับโฉม ทำให้สามารถปล่อยพื้นที่เช่าได้สูงถึง 95%  และจากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ มีนโยบายที่จะพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับความต้องการให้ได้เต็มศักยภาพ

ล่าสุดจึงได้มีการปรับพื้นที่รวม 2 โซน ประกอบด้วย พื้นที่โถงบริเวณชั้น 4 ให้กลายเป็น Co-Here Space พื้นที่จัดกิจกรรม มีเนื้อที่รวม 250 ตารางเมตร ใช้งบประมาณในการปรับพื้นที่กว่า 1 ล้านบาท รองรับได้ประมาณ 120 - 150 คน โดยได้เปิดให้บริการแล้วตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา   และพื้นที่จัดกิจกรรมการตลาดรอบอาคารศูนย์การค้าฯ “Co-On ground” บริเวณสยามสแควร์ซอย 3 และซอย 4 ซึ่งพร้อมรองรับการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีเนื้อที่รวม 146 ตารางเมตร ใช้งบประมาณในการปรับพื้นที่ราว 2 ล้านบาท ซึ่งพร้อมจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายนนี้

CPS2

“การพัฒนาศูนย์การค้าฯ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ กลายเป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆ ของการจัดกิจกรรมทางการตลาดของแบรนด์ต่างๆ ในปัจจุบัน เชื่อมั่นว่าหลังจากปรับพื้นที่ศูนย์การค้าฯ ใหม่ในครั้งนี้ จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5% ในปี 2560 สิ่งที่น่าจับตาคือการเพิ่มปริมาณทราฟฟิคภายในศูนย์การค้าฯ จากเดือนมกราคมเฉลี่ยที่ 4.5 1หมื่นคนต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็น 5.5 หมื่นคนต่อวัน ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และเมื่อปรับโฉมเสร็จคาดว่าจะพุ่งแตะ 6  – 7 หมื่นคนต่อวัน” นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ กล่าวและว่า   CPS3

ปัจจุบันผู้ที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯ 75% เป็นกลุ่มคนไทย และ 25% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเป็นนักท่องเที่ยวหลักจากประเทศในเอเชีย  ซึ่งเป็นผลจากนโยบายการโปรโมทการท่องเที่ยวเมืองไทยโดยภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตั้งแต่ปลายไตรมาสแรกมาถึงปัจจุบันมีการใช้จ่ายต่อคนต่อวันเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด  ทั้งนี้เป็นผลจากการเปิดตัวร้านใหม่ๆ ที่ดึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตลอดจนการจัด Lifestyle market ในรูปแบบต่างๆ อาทิ Hipster market ที่นำสินค้าที่มีดีไซน์มาจำหน่าย  หรือการจัดกิจกรรมตลาดนัดดารา เพื่อดึงกลุ่มแฟนคลับเข้ามาเพิ่มทราฟฟิคและเพิ่มโอกาสทางการขายให้แก่ผู้เช่าพื้นที่ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี โดยในช่วง 5 เดือนที่เหลือนี้จะมีแบรนด์ดังมาเปิดแฟลคชิปสโตร์เพิ่มอีก 2-3 แบรนด์ และจะมีการเพิ่มร้านอาหารที่เด่นด้วยรสชาติและแนวคิด เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้ที่มาเที่ยวย่านสยามสแควร์ให้ได้รับประสบการณ์และความประทับใจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง