หล่อหลอม เฮงเค็ล พัฒนาสู่Digitalization

01 ก.ย. 2560 | 07:05 น.
ขณะที่โลกกำลังพัฒนาไปสู่การเป็นดิจิตอล การทำหน้าที่นำทัพขององค์กรข้ามชาติอย่าง บริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด จึงมีหน้าที่ที่จะขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวหน้าไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงของโลก “อีริค อีเดลแมน” ประธานบริษัทที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือน พฤษภาคม 2559 บอกเลยว่า นี่คือความท้าทาย

“อีริค” มีเป้าหมายในการผลักดัน Digitalization ให้กลายเป็นเนื้อเดียวกับองค์กร ผ่านการ Groom ทักษะบุคลากร และพัฒนาระบบการทำงานในองค์กรไปพร้อมๆ กัน ภายใต้ความรับผิดชอบที่ไม่เพียงแค่ตำแหน่งประธาน เฮงเค็ล (ประเทศไทย)แต่เขา ยังดำรงตำแหน่งผู้จัดการธุรกิจเทคโนโลยีกาว และยังควบตำแหน่งประธานหน่วยธุรกิจกาวสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคและบรรจุภัณฑ์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 โดยก่อนหน้า “อีริค” บอกว่า เขาทำงานในไทยมากว่า 3 ปีครึ่ง และเคยฝึกงานด้านวิศวกรที่มาบตาพุดกับบริษัทเยอรมนี เพราะฉะนั้น เขาจึงมีความรู้และได้สัมผัสกับวัฒนธรรมไทยและคนไทยมาพอสมควร ประกอบกับเฮงเค็ลมีการเทรนพนักงานขององค์กร ทั้งด้านวัฒนธรรมและภาษา เพื่อปูพื้นให้กับพนักงานในเบื้องต้น ก่อนการย้ายเข้ารับตำแหน่งในประเทศต่างๆ

MP25-3292-1A “เฮงเค็ลเป็นองค์กรที่มีความหลากหลาย มีพนักงานหลายเชื้อชาติ และเฮงเค็ลก็ขยายธุรกิจไปในหลายประเทศทั่วโลก การเตรียมพร้อมเรื่องวัฒนธรรมและภาษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ”

จากแผนธุรกิจปี 2020 เฮงเค็ล มีการลงทุนและพัฒนาเพื่อความสำเร็จและการเติบโตในอนาคตของเฮงเค็ลกรุ๊ปใน 3 ด้าน คือ 1. การเจริญเติบโต 2. การพัฒนาองค์กรสู่ดิจิตอลไลเซชัน และ 3. การกระจายความเติบโต หรือการกระจายการลงทุน

ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจของเฮงเค็ลไทย ที่ “อีริค” วางไว้ให้มีความสอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ขององค์กร คือ ความเข้าใจในวัฒนธรรม คน และสภาพตลาดในพื้นที่นั้นๆ เมื่อเข้าใจแล้ว ก็ต้องหลอมรวมองค์กรเฮงเค็ลให้เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำงาน โดยเฮงเค็ลจะมี 2 กลุ่มธุรกิจใหญ่ คือ ฝ่ายธุรกิจบิวตี้แคร์ และฝ่ายเทคโนโลยีกาว ในองค์กรจะมีกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานผ่านกิจกรรมต่างๆ และมีการพัฒนาคน Engage คนเข้าด้วยการ

ขณะเดียวกัน เฮงเค็ลก็ต้องเตรียมพนักงานและธุรกิจไปสู่ดิจิตอลไลเซชัน ซึ่งหมายรวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิตอล ทั้งการผลิต และเทคโนโลยี ในการสื่อสาร จะต้องไปทางออนไลน์มากขึ้น โดยต้องสื่อสารให้พนักงานรับรู้ว่าเฮงเค็ลจะปรับเปลี่ยนไปสู่ดิจิตอลอย่างไร และพนักงานเองต้องเปลี่ยนแปลงอย่างไร

MP25-3292-2A เป้าหมายการทำงานของ “อีริค” คือ การขับเคลื่อนใน 3 ส่วน ได้แก่ 1.การเติบโตของธุรกิจ 2. อยากให้บริษัทเป็น Employer of Choice เป็นบริษัทที่ทันสมัย และ3. ต้องตอบแทนสังคม “อีริค” บอกว่า เขาให้ความสำคัญกับ “บุคลากร” เพราะหากไม่มีเขาเหล่านี้ องค์กรก็ไม่สามารถชนะ ไม่สามารถดำเนินธุรกิจที่ดีได้ คนคือ สินทรัพย์ขององค์กร... เรามีคนที่มีประสิทธิภาพ ธุรกิจก็จะสำเร็จ คนต้องเรียนรู้รวดเร็ว และมีคุณภาพ ผ่านการสร้างทีมสปิริตที่มีความเป็นครอบครัว ที่จะโตไปด้วยกัน ต่างเติมเต็มให้กันและกัน และเฮงเค็ลต้องสร้างคนให้มีความสามารถเป็นผู้นำในแต่ละหน้าที่

ตลาดประเทศไทยมีความคล้ายคลึงกับจีนตะวันออกที่เขาเคยไปบริหารมาแล้ว นั่นคือ การเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีการเติบโตเร็ว มีแนวโน้มใหม่ๆ เกิดขึ้น และจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาไทยจำนวนมากในแต่ละปี ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางการตลาด

เป้าหมายสูงสุดของ “อีริค” คือการสร้างเฮงเค็ล (ประเทศไทย) ให้เติบโตและเป็นผู้นำในตลาดทั้งบิวตี้แคร์และเทคโนโลยีกาว รวมทั้งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแฮร์แคร์ แต่...ความสำเร็จที่เขาต้องการ ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ความสำเร็จทางด้านธุรกิจ หากแต่ต้องบาลานซ์ใน 3 ส่วน คือการสร้างธุรกิจให้มีกำไร การสร้างบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ และการตอบแทนสังคม ซึ่งจะทำให้เฮงเค็ลเติบโตอย่างยั่งยืน และทำให้คนรุ่นหลังสามารถสานต่อสร้างธุรกิจให้เติบโตไปได้เรื่อยๆ

การเข้ามาทำหน้าที่ผู้บริหารในประเทศไทย ส่วนหนึ่งมาจากความชอบและรักในประเทศไทย รวมทั้งสนใจตลาดในเมืองไทย เพราะฉะนั้น “อีริค” บอกเลยว่า เขาจะสร้างเฮงเค็ล (ประเทศไทย) ให้เติบโตอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,292
วันที่ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน พ.ศ. 2560