กรมโรงงานฯยกระดับหม้อน้ำสมองกล ลดใช้พลังงานปีละพันล.

27 ส.ค. 2560 | 23:10 น.
กรมโรงงานอุตสาหกรรม ผลักดันและพัฒนายกระดับหม้อน้ำเข้าสู่โหมด Smart boiler หรือ หม้อน้ำสมองกล เพื่อพัฒนา ปรับปรุง ยกระดับ และส่งเสริมสนับสนุนงานด้าน Boiler ให้สอดคล้องกับแนวคิด SMART Boiler สู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม คาดจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยลดความเสี่ยงแก่พนักงาน ลดต้นทุนการผลิตและเกิดการประหยัดพลังงานได้กว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี

[caption id="attachment_200532" align="aligncenter" width="503"] นายมงคล พฤกษ์วัฒนา นายมงคล พฤกษ์วัฒนา[/caption]

นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม  กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า  เมื่อทิศทางการเปลี่ยนแปลงของบริบทประเทศไทยปรับสู่ยุค 4.0 ที่จะนำเอาระบบดิจิตอลมาช่วยยกระดับคุณภาพและศักยภาพของประเทศ จึงต้องมีการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอันเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาประเทศไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมพร้อม กลไกลการขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยใช้กระบวนการผลิตที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิตัลครบวงจร แบบ ‘Smart Factory’ กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีแนวทางพัฒนายกระดับโดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับหม้อน้ำ หรือ Boiler ซึ่งนับเป็นเครื่องจักรหรือต้นกำลังสำคัญในการผลิตไอน้ำเพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิตของโรงงาน มีค่าการใช้พลังงานสำหรับหม้อน้ำสูงถึง 8,100 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือคิดเป็น 29% ของพลังงานทั้งหมดที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ดังนั้น การพัฒนายกระดับหม้อน้ำเข้าสู่โหมด Smart boiler โดยให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีประสิทธิภาพพลังงาน จะเป็นกลไกหนึ่งที่จะขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมตามแนวคิดประเทศไทย 4.0

drfgxgsey นายมงคล กล่าวต่อว่า ด้วยบทบาทและภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ผลักดันและยกระดับหม้อน้ำเข้าสู่โหมด Smart boiler หรือ หม้อน้ำสมองกล เพื่อพัฒนา ปรับปรุง ยกระดับ และส่งเสริมสนับสนุนงานด้านหม้อน้ำทั้งความปลอดภัย พลังงานและสิ่งแวดล้อม ให้ก้าวหน้าและยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ “ประชารัฐ” ที่จะนำเครื่องจักรขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับหม้อน้ำที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้เป็นเครื่องจักรที่สามารถประมวลผลฟังก์ชั่นการทำงานโดยคำนึงถึงความปลอดภัยสิ่งแวดล้อมและประสิทธิภาพพลังงาน มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูง โดยจะต้องมีการรวมเข้ากับระบบอัตโนมัติ ระบบการผลิตที่ประหยัดและคุ้มค่า และระบบที่เชื่อมต่อกันกับระบบอื่นๆ โดยได้วางแผนการขับเคลื่อนครอบคลุมใน 3 มิติสำคัญ คือ

jfthjxh 1.ด้านความปลอดภัย  ที่จะนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งานหม้อน้ำอย่างปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายต่อบุคลากร และความปลอดภัยของชุมชนโดยรอบ เป็นต้นว่า ปัจจุบันได้มีผู้ประกอบการพัฒนาระบบนำนวัตกรรมที่เรียกว่า Self-monitoring control เพื่อควบคุมระดับน้ำ water level control โดยมีวงจรตรวจสอบตัวเอง และ ยังมีระบบเตือนและบันทึกเหตุการณ์ผิดปกติ สามารถรายงานสถานการณ์ใช้งานแบบ real time พร้อมแจ้งปัญหาที่ตรวจพบ อีกทั้งสามารเก็บบันทึกข้อมูลเพื่อตรวจสอบย้อนหลัง ได้กว่า 900 เหตุการณ์

2.ด้านสิ่งแวดล้อม  ความอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีจะทำให้หม้อน้ำสามารถควบคุมหรือกำหนดการปลอดปล่อยมลภาวะทางอากาศหรือทางน้ำให้สอดคล้องกับข้อกำหนดกฎหมายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยรายงานผลแบบ real time เพียงสัมผัส touch screen นอกจากนี้ นวัตกรรมด้านการดูแลการทำงาน Smart monitoring ของหม้อน้ำ จะเอื้ออำนวยความสะดวกในการใช้งานหม้อน้ำแก่ผู้ควบคุมประจำหม้อน้ำ อีกทั้งสามารถรับรู้สถานการณ์ทำงานของหม้อน้ำโดยมิต้องอยู่ประจำหม้อน้ำตลอดเวลา

3.ด้านประสิทธิภาพพลังงาน โดยการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อควบคุมการใช้งานหม้อน้ำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพพลังงานมากที่สุดควบคู่ไปกับการใช้งานอย่างปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  อีกทั้ง ระบบยังสามารถประมวลผล แจ้งเตือน และวางแผนการบำรุงรักษาหม้อน้ำ อย่างเป็นระบบ ระบบการวิเคราะห์ประเมินผลด้านประสิทธิภาพพลังงาน หรือปัญญาประดิษฐ์ Artificial Intelligence จะช่วยให้มีการใช้งานหม้อน้ำได้อย่างคุ้มค่าและเต็มประสิทธิภาพ

โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนงานด้านหม้อน้ำที่ปัจจุบันมีอยู่ในโรงงานกว่า 15,000 เครื่อง อยู่ในโรงแรมและโรงพยาบาลกว่า 10,000 เครื่อง ได้อย่างปลอดภัยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยลดความเสี่ยงแก่พนักงาน ลดต้นทุนการผลิตและเกิดการประหยัดพลังงานได้กว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี

dwfzcvz นอกจากนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมยังได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน ในการสร้าง “เครือข่ายประชารัฐ” อาทิ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รวมทั้งผู้ประกอบกิจการ ผู้ควบคุมประจำหม้อน้ำ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการเพื่อยกระดับการใช้งานหม้อน้ำ เพื่อพัฒนา ปรับปรุง ยกระดับ และส่งเสริมสนับสนุนงานด้าน Boiler โดยได้จัดงานสัมมนา “SMART Boiler & ภายใต้ Thailand 4.0” ที่จะให้ความรู้ความเข้าใจพร้อมแนวทางด้านสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบการจะได้รับเมื่อเปลี่ยนมาใช้ SMART Boiler โดยการสนับสนุนทางการเงินและวิชาการจากหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย และภาคเอกชนบริการคลินิกที่ปรึกษาด้าน Boiler พร้อมกับการแสดงนิทรรศการความก้าวหน้าและนวัตกรรมด้านหม้อน้ำ (Boiler) จำนวน 34 บูธ อาทิ  MEC Remote นวัตกรรม SMART Boiler เพื่อการควบคุมและตรวจสอบหม้อไอน้ำทางไกล แบบ Real time ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของ Boiler และ นวัตกรรมด้านการประหยัดพลังงาน ผ่านอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อลดการใช้พลังงาน ผ่านนวัตกรรมไร้สาย ที่จะสอดคล้องกับแนวคิด SMART Boiler เพื่อให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจและปรับเปลี่ยนเพื่อก้าวเป็น Thailand 4.0 พัฒนาประเทศไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม