“มนต์เสน่ห์มหานครเซี่ยงไฮ้”ตอกย้ำสัมพันธ์ไทย-จีน

26 ส.ค. 2560 | 11:30 น.
หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร ได้มีพิธีเปิดงาน "มนต์เสน่ห์มหานครเซี่ยงไฮ้" และนิทรรศการ “หน้าต่างแห่งเซี่ยงไฮ้” (Window of Shanghai) โดยสำนักงานสารนิเทศรัฐบาลประชาชนนครเซี่ยงไฮ้และสมาคมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมวิเทศสัมพันธ์นครเซี่ยงไฮ้ เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและนครเซี่ยงไฮ้ ที่ได้เจริญความสัมพันธ์ฉันท์เมืองพี่เมืองน้องกันมาตั้งแต่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2559 และมีการแลกเปลี่ยนและความมือในด้านต่างๆ เกิดขึ้นอย่างหลากหลาย

โดยเฉพาะงานทางด้านวัฒนธรรม ทั้งนี้เพื่อย้ำความสัมพันธ์ระหว่างกันให้กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 นครเซี่ยงไฮ้และกรุงเทพมหานครจึงได้ร่วมกันจัดงาน “มนต์เสน่ห์มหานครเซี่ยงไฮ้” ขึ้นที่หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่ได้จัด “สัปดาห์วิทยุเซี่ยงไฮ้” ขึ้นที่กรุงเทพมหานครในงานมีการเปิดตัวหนังสือที่สำนักพิมพ์ศิลปะประชาชนแห่งนครเซี่ยงไฮ้ ที่เพิ่งจัดทำขึ้นเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ได้แก่ หนังสือฉบับภาษาอังกฤษ-จีน จำนวน 30 ชุด เป็นเรื่องราวซีรี่ย์ชุดภาพวาด “ตำนานนิทานพื้นบ้านจีน” รวมทั้งชุดเรื่อง " เทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์ " และ "เจ้าแม่หนี่วาปิดฟ้า" อีกทั้งมีการแสดงภาพถ่าย และหนังสืออีกกว่า 500 เล่ม รวมทั้งภาพยนตร์ที่ฉายภาพวิถีชีวิตของชาวเซี่ยงไฮ้ ที่หอสมุดนครเซี่ยงไฮ้นำมามอบให้กับหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร

thch

โดยงานนี้ได้รับเกียรติจากได้นายจู หย่ง เหลย รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนนคร เซี่ยงไฮ้ รองผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน นครเซี่ยงไฮ้ เป็นประธานร่วมกับ นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร นางหยังหยัง ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พันเอกชาญชัย วิชิตสรไกร รองประธานสถานีวิทยุกระจายเสียงประจำถิ่น กองทัพไทยและผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงคลื่น LIKE FM 103 นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และบรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ นายเฉลิมพล โชตินุชิต ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม. พร้อมผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัด และตัวแทนนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพและมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมพิธี

นายจูหย่งเหลย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยมีความใกล้ชิดกันมาแต่ครั้งในอดีต ดังคำกล่าวที่ว่า “จีนไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน” ปัจจุบัน รัฐบาลจีนได้นำเสนอแนวคิด Belt & Road ที่เน้นเรื่องร่วมกันเจรจา สร้างสรรค์ และแบ่งปัน ได้รับประโยชน์ร่วมกัน และพัฒนาไปด้วยกัน เซี่ยงไฮ้กับกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองพี่เมืองน้อง ต่างก็เป็นเมืองที่มีความสำคัญต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีความคล้ายคลึงกันในหลายแง่มุม กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ศูนย์กลางด้านการปกครอง เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ การศึกษา วัฒนธรรม ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า ด้านเซี่ยงไฮ้เองก็เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจในระดับโลก ทั้งด้านการเงิน พาณิชย์ โลจิสติกส์ อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม เพราะฉะนั้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เซี่ยงไฮ้และกรุงเทพฯ จะพัฒนาความร่วมมือกันในทุกด้าน และกระชับมิตรภาพระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไป

shanghai005

ด้านนางหยังหยัง ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า เซี่ยงไฮ้และกรุงเทพฯ มีความคล้ายคลึงกันหลายด้าน ไม่ว่าในฐานะมหานครที่มีความสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ความมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ เป็นจุดหมายปลายทางที่นิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งสองเมืองยังมีบรรยากาศแห่งความอิสระ โอบอ้อมอารีย์และเป็นแนวหน้าในด้านนวัตกรรม ผู้คนในเมืองนิยมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ชอบที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ กับวัฒนธรรมที่หลากหลาย หลังจากที่เซี่ยงไฮ้และกรุงเทพได้ประกาศความเป็นเมืองพี่เมืองน้องไปเมื่อปีที่ผ่านมา ความร่วมมือ การไปมาหาสู่กัน รวมถึงความเข้าใจและความรู้สึกใกล้ชิดก็ยิ่งทวีมากขึ้น

นายเฉลิมพล โชตินุชิต ผู้อํานวยการสํานักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครกล่าวว่า ขอขอบคุณสํานักงานสารนิเทศแห่งรัฐบาลประชาชนนครเซี่ยงไฮ้เป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้เกียรติหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรม “มนต์เสน่ห์มหานครเซี่ยงไฮ้” ซึ่งประสบความสําเร็จเป็นอย่างมากในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจของนครเซี่ยงไฮ้ในระดับนานาชาติ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ชาวกรุงเทพมหานครจะได้เรียนรู้อัตลักษณ์ แนวคิด วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมด้านต่างๆ ของนครเซี่ยงไฮ้ ที่มีความเป็นมาอย่างยาวนานในเชิงที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

yuyuan

ส่วนนายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน บรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจกล่าว ชื่นชมการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า เป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยได้รู้จักมหานครเซี่ยงไฮ้มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกล หรือเมืองเศรษฐกิจอันทันสมัยที่นักลงทุนใฝ่ฝัน แต่จะเป็นเมืองต้นแบบแห่งการพัฒนาที่น่าศึกษาและค้นหาเคล็ดแห่งความสำเร็จด้วย

นอกจากนี้ ทางสถานีวิทยุ FM 103 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเจ้าภาพร่วมก็ได้ออกอากาศรายการ “สัปดาห์วิทยุเซี่ยงไฮ้" อย่างต่อเนื่องทุกคืน ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการแนะนำนวัตกรรมและวัฒนธรรมอันหลากหลาย อันแสดงถึงความอบอุ่นและความเป็นเอกลักษณ์ของนครเซี่ยงไฮ้

เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศจีน และเป็นมหานครที่หลอมรวมทั้งความเป็นจีนและสากลเข้าด้วยกัน ขณะที่ กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เซี่ยงไฮ้กับกรุงเทพฯ มีความคล้ายคลึงกันมาก เป็นเมืองแห่งสายน้ำ และเป็นเมืองท่าสำคัญใน “เส้นทางสายไหมทางทะเล”ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ ให้สิทธิพิเศษ และอำนวยประโยชน์แก่กันในด้านต่างๆ เกื้อกูลให้สายสัมพันธ์ของทั้งสองเมืองสนิทแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตามคำขวัญที่ว่า “ร่วมหารือ ร่วมสร้างสรรค์ ร่วมแบ่งปัน” ภายใต้แนวคิด “One Belt, One Road” ซึ่งกิจกรรม “มนต์เสน่ห์มหานครเซี่ยงไฮ้” ในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีที่ค่อยๆ หยั่งรากลงในความคิดและวิถีชีวิตของชาวเมืองทั้งสองได้เป็นอย่างดี