หุ้นโรงกลั่นเด่นยกESSO

30 ส.ค. 2560 | 10:44 น.
นักวิเคราะห์ดาหน้าแนะนำ ธนชาตชอบ 3 ตัวเอสโซ่ ไทยออยล์ สตาร์ปิโตรเลียม ส่วนซีไอเอ็มบี เชียร์ SPRC ราคานํ้ามันเพิ่มขึ้นมีผลดี-เสียหุ้นหลายตัว

หุ้นกลุ่มโรงกลั่นแรงยกแผง วันที่ 25 สิงหาคม 2560 ราคาขยับและมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น อาทิ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO

นักวิเคราะห์ จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาตฯ แนะนำให้ซื้อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น มองได้ประโยชน์จากค่าการกลั่น(GRM) สูง 7-8 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากการส่งออกนํ้ามันกลั่นลดลง และสถานการณ์พายุในสหรัฐฯ ส่งผลให้โรงกลั่นบางแห่งปิดทำการชั่วคราว เป็นผลบวกระยะสั้น ชอบ ESSO, TOP และบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC

MP17-3291-C โดยเฉพาะ ESSO ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 17 บาท จาก 1 กำไรไตรมาส 3/2560 มีแนวโน้มแข็งแกร่งจากค่าการกลั่นสูง สัดส่วนราคาต่อกำไร (พี/อี)6 เท่า ค่อนข้างตํ่า คาดว่า ESSO จะสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้ปีนี้ และทางเทคนิคมีปริมาณการซื้อขายหนาแน่นหลายสัปดาห์ติดต่อกัน เป้าหมายระยะสั้นที่ 12.10-12.50 บาท

ด้านนักวิเคราะห์บล.ซีไอเอ็มบีฯ แนะนำ “ซื้อ” SPRC ให้ราคาเป้าหมาย 19 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 16.6% จากราคาปัจจุบัน 16.30 สะท้อนถึงความได้เปรียบจาก GRM ที่สูงขึ้นของ SPRC เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งของบริษัท และคิดว่าตลาดประเมินแนวโน้มรายได้ ตํ่าเกินไปในไตรมาส 3 และ 4 ที่มีการเติบโต 20% จากไตรมาสก่อน ของ GRM เป็น 9 ดอลลาร์สหรัฐฯในไตรมาส 3 ปัจจัยผลักดัน GRM ที่แข็งแกร่งของ SPRC คือ gasoline-Dubai spread ที่เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีโอกาสเติบโตดีตามแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้น

[caption id="attachment_198922" align="aligncenter" width="503"] ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์[/caption]

ก่อนหน้านี้ นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST ให้กลยุทธ์การลงทุน เลือกหุ้นรายตัว เน้นปัจจัยบวกเฉพาะตัวและเข้าลงทุนเพียงกรอบเวลาสั้นๆ ส่วนหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีนั้น จากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมามาก อาจต้องไปรอดูราคาผลิตภัณฑ์รายสัปดาห์ ที่จะมีการเปิดเผยวันอังคาร เพื่อดูว่าควรถือหรือขายทำกำไร หรือแม้กระทั่งหุ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ อาทิ นํ้ามัน-โรงกลั่นนํ้ามัน ราคาหุ้นเลือกเล่นได้เพียงบางตัว อาทิ TOP และ ESSO

ส่วนราคานํ้ามันดิบที่เพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)ฯ มองว่า ราคา นํ้ามัน (ICE Brent Crude Spot Month) ล่าสุดปิดที่ระดับ 52.38 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เทียบกับ 1 สัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 51.03 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลคิดเป็นการเพิ่ม 2.6% เป็นผลดีต่อธุรกิจเกี่ยวกับนํ้ามัน ปิโตรเคมี และโรงกลั่นนํ้ามัน ได้แก่ PTT, PTTEP, PTTGC, TOP, ESSO, IRPC, BCP, SPRC แต่กลับเป็นลบกับหุ้นที่อิงนํ้ามันเป็นวัตถุดิบเช่น TASCO, EPG และกลุ่มขนส่งที่ใช้นํ้ามันเป็นต้นทุนเช่น AAV, BA, THAI และ NOK

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560