เสี่ยวมี่ชูโมเดล‘มี่แฟน’สู้ศึกตลาดสมาร์ทโฟน
เสี่ยวมี่ ปักธงสู้ศึกสมาร์ทโฟนไทย ชี้เป็นตลาดสำคัญภูมิภาค ชูผลิตภัณฑ์-โมเดลตลาด “มี่แฟน” ต่างจากคู่แข่งรายอื่น ล่าสุดตั้งดิสตริบิวเตอร์ “วีเอสที อีซีเอส” ทำตลาดอย่างเป็นทางการ
นายโดโนวาน ซง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เสี่ยวมี่ โกลบอลฯ เปิดเผยว่าเสี่ยวมี่ได้ขยายการทำตลาดเข้ามาในไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยมองว่าตลาดไทยมีขนาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในไทย และจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมองว่าไทยมีการขยายโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร 4 จี ที่สอดคล้องกับการขยายตลาดของเสี่ยวมี่
โดยล่าสุดได้ตั้งบริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นดิสตริบิวเตอร์กระจายสินค้าสู่ตลาด และให้บริการหลังการขายในไทยอย่างเป็นทางการ โดยมองว่าการจำหน่ายผ่านช่องดิสตริบิวเตอร์ หรือทางออฟไลน์เป็นโมเดลที่เหมาะกับไทย อย่างไรก็ตามก็มี ช่องจำหน่ายออนไลน์ผ่านลาซาด้า สำหรับสินค้าที่จำหน่ายในไทย ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟน แต่ยังมีสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์เน็ตเวิร์ก อุปกรณ์ IoT และอุปกรณ์ทรานส์ปอร์เตชัน อาทิ จักรยานไฟฟ้า และโดรน โดยมีสินค้าทั้งหมด 300 รายการ โดยทุกรายการรองรับเชื่อมต่อกันผ่านแพลตฟอร์ม Mi Home ที่เป็นแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน สำหรับควบคุมสั่งการอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบริการทางอินเตอร์เน็ต
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้นำผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน 2 รุ่น เรดมี่ โน้ต 4 Redmi Note 4 สำหรับตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่ต้องการแบตเตอรี่ความจุสูง ราคา 6,790 บาท กับ Mi 6 สมาร์ทโฟนระดับบน ที่มีดีไซน์กระจกโค้ง กล้องคู่ ราคาเริ่มต้นสำหรับรุ่นหน่วยความจำ 6 GB ROM 64 GB ราคา13,790 บาท
นายโดโนวาน ซง กล่าวต่อไปว่ากลยุทธ์การทำตลาดในไทยนั้นยังไม่มีแผนใช้แบรนด์แอมบาสซาเดอร์เหมือนกับสมาร์ทโฟนรายอื่น แต่จะใช้เครือข่ายผู้ใช้ “มี่แฟน” ในการ สื่อสารทางการตลาด รวมถึงรับ ฟังความคิดเห็นในการพัฒนาผลิต ภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการ นอกจากนี้ยังใช้จุดเด่น ของผลิตภัณฑ์ที่เลือกชิ้นส่วนที่ดีสุดในตลาดมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่กำหนดราคาขายไว้ใกล้เคียงกับต้นทุน เป็นกลยุทธ์ สำคัญในการทำตลาด ส่วนงบตลาดนั้นจะเป็นไปตามยอดขาย ซึ่งในปีนี้ไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560
นายโดโนวาน ซง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เสี่ยวมี่ โกลบอลฯ เปิดเผยว่าเสี่ยวมี่ได้ขยายการทำตลาดเข้ามาในไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยมองว่าตลาดไทยมีขนาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาค จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในไทย และจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมองว่าไทยมีการขยายโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร 4 จี ที่สอดคล้องกับการขยายตลาดของเสี่ยวมี่
โดยล่าสุดได้ตั้งบริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นดิสตริบิวเตอร์กระจายสินค้าสู่ตลาด และให้บริการหลังการขายในไทยอย่างเป็นทางการ โดยมองว่าการจำหน่ายผ่านช่องดิสตริบิวเตอร์ หรือทางออฟไลน์เป็นโมเดลที่เหมาะกับไทย อย่างไรก็ตามก็มี ช่องจำหน่ายออนไลน์ผ่านลาซาด้า สำหรับสินค้าที่จำหน่ายในไทย ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟน แต่ยังมีสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์เน็ตเวิร์ก อุปกรณ์ IoT และอุปกรณ์ทรานส์ปอร์เตชัน อาทิ จักรยานไฟฟ้า และโดรน โดยมีสินค้าทั้งหมด 300 รายการ โดยทุกรายการรองรับเชื่อมต่อกันผ่านแพลตฟอร์ม Mi Home ที่เป็นแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน สำหรับควบคุมสั่งการอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบริการทางอินเตอร์เน็ต
นายโดโนวาน ซง กล่าวต่อไปว่ากลยุทธ์การทำตลาดในไทยนั้นยังไม่มีแผนใช้แบรนด์แอมบาสซาเดอร์เหมือนกับสมาร์ทโฟนรายอื่น แต่จะใช้เครือข่ายผู้ใช้ “มี่แฟน” ในการ สื่อสารทางการตลาด รวมถึงรับ ฟังความคิดเห็นในการพัฒนาผลิต ภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการ นอกจากนี้ยังใช้จุดเด่น ของผลิตภัณฑ์ที่เลือกชิ้นส่วนที่ดีสุดในตลาดมาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่กำหนดราคาขายไว้ใกล้เคียงกับต้นทุน เป็นกลยุทธ์ สำคัญในการทำตลาด ส่วนงบตลาดนั้นจะเป็นไปตามยอดขาย ซึ่งในปีนี้ไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560