โนมูระหอบ3พันล.ผนึกออริจิ้นลุยอสังหาฯ
บิ๊กโนมูระเผยเตรียมเม็ดเงินลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยกว่า 3,000 ล้านบาท ร่วมกับออริจิ้น เน้นตลาดกทม.เท่านั้น มั่นใจเศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง อนาคตเมืองเติบโต มีประชากรเพิ่ม
นายเอย์จิ คุสึคาเขะ ประธานกรรมการ บริษัทโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (NRED) เผยว่า ที่ผ่านมาโนมูระมีการลงทุนนอกญี่ปุ่น ที่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และจีน สำหรับไทยเป็นประเทศที่ 4 และเป็นตลาดที่เราลงทุนมากที่สุดคือประมาณ 1 หมื่นล้านเยนเศษ หรือประมาณ 3,100 ล้านบาท ในอนาคตหากจะมีการลงทุนเพิ่มก็ยังคงลงทุนในไทยและเน้นกรุงเทพฯ
ปัจจัยที่เลือกประเทศไทยเพราะได้ผ่านพ้นวิกฤติมาหลายครั้ง สะท้อนถึงความเข้มแข็งของไทยได้ดี ทำให้ประเทศไทยเติบโตอย่างมากในหมู่อาเซียน โดยเฉพาะกรุงเทพฯ มองว่าเป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตจะมีคนเข้ามาอยู่มากขึ้น ทั้งนี้ตลาดที่จะเติบโตมากที่สุด คือกลุ่มสังคมผู้สูงอายุ
“การที่จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากมีทิศทางการดำเนินธุรกิจที่เหมือนกันหลายจุด ได้แก่ การพัฒนาที่อยู่อาศัยและคอนโดฯในด้านวิศวกรรม การบริหารจัดการ และการพัฒนาทางด้านลูกค้าสัมพันธ์ เป็นต้น ไม่เพียงแต่พัฒนาที่อยู่อาศัยเท่านั้น ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจด้านการขายบริการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ค้าปลีก ออฟฟิศ”
ขณะที่นายชิเงยูกิ ยามาโมโตะ ผู้อำนวยการและกรรมการเจ้าหน้าที่อาวุโส โนมูระ กล่าวถึงแผนการทำตลาดในกรุงเทพฯ ว่า จะร่วมพัฒนาโปรเจ็กต์ด้วยกันถึง 3 โครงการ โดย ออริจิ้น เป็นพันธมิตรธุรกิจที่เข้มแข็งบริษัทมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำยอดขายติดอันดับ 6 ในปี 2559 หลังจากก่อตั้งบริษัทได้เพียง 8 ปี
[caption id="attachment_188507" align="aligncenter" width="503"]
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)[/caption]
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าหลังจากบริษัทได้ตัดสินใจร่วมทุนครั้งสำคัญกับบริษัทโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ระดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ภายใต้การร่วมทุนผ่าน 4 บริษัทย่อย บริษัทละประมาณ 49% ล่าสุดบริษัทเริ่มจะนำดีไซน์ โนว์ฮาว และนวัตกรรมต่างๆ ของโนมูระ เข้ามาใช้กับ 3 โครงการ ได้แก่ ไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง, ไนท์บริดจ์ ไพรม์ อ่อนนุช, ไนท์บริดจ์ ไพรม์ รัชโยธิน ที่จะเปิดขายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ภายใต้โครงการ “Luxmore”
โครงการ “Luxmore” เป็นแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยของโนมูระ ที่คำนึงถึงปัจจัยสำคัญต่อการใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัย 5 ด้าน ได้แก่ 1. การสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์ 2. ความสะดวกในการใช้สอย 3. การใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย 4. ดีไซน์ 5. การบำรุงรักษาและการทำความสะอาด ทำให้โครงการต่างๆ ของโนมูระสามารถสร้างมิติใหม่ในการอยู่อาศัยให้แก่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น และยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560
นายเอย์จิ คุสึคาเขะ ประธานกรรมการ บริษัทโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (NRED) เผยว่า ที่ผ่านมาโนมูระมีการลงทุนนอกญี่ปุ่น ที่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และจีน สำหรับไทยเป็นประเทศที่ 4 และเป็นตลาดที่เราลงทุนมากที่สุดคือประมาณ 1 หมื่นล้านเยนเศษ หรือประมาณ 3,100 ล้านบาท ในอนาคตหากจะมีการลงทุนเพิ่มก็ยังคงลงทุนในไทยและเน้นกรุงเทพฯ
ปัจจัยที่เลือกประเทศไทยเพราะได้ผ่านพ้นวิกฤติมาหลายครั้ง สะท้อนถึงความเข้มแข็งของไทยได้ดี ทำให้ประเทศไทยเติบโตอย่างมากในหมู่อาเซียน โดยเฉพาะกรุงเทพฯ มองว่าเป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตจะมีคนเข้ามาอยู่มากขึ้น ทั้งนี้ตลาดที่จะเติบโตมากที่สุด คือกลุ่มสังคมผู้สูงอายุ
“การที่จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากมีทิศทางการดำเนินธุรกิจที่เหมือนกันหลายจุด ได้แก่ การพัฒนาที่อยู่อาศัยและคอนโดฯในด้านวิศวกรรม การบริหารจัดการ และการพัฒนาทางด้านลูกค้าสัมพันธ์ เป็นต้น ไม่เพียงแต่พัฒนาที่อยู่อาศัยเท่านั้น ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจด้านการขายบริการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ค้าปลีก ออฟฟิศ”
ขณะที่นายชิเงยูกิ ยามาโมโตะ ผู้อำนวยการและกรรมการเจ้าหน้าที่อาวุโส โนมูระ กล่าวถึงแผนการทำตลาดในกรุงเทพฯ ว่า จะร่วมพัฒนาโปรเจ็กต์ด้วยกันถึง 3 โครงการ โดย ออริจิ้น เป็นพันธมิตรธุรกิจที่เข้มแข็งบริษัทมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำยอดขายติดอันดับ 6 ในปี 2559 หลังจากก่อตั้งบริษัทได้เพียง 8 ปี
[caption id="attachment_188507" align="aligncenter" width="503"]
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าหลังจากบริษัทได้ตัดสินใจร่วมทุนครั้งสำคัญกับบริษัทโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ระดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ภายใต้การร่วมทุนผ่าน 4 บริษัทย่อย บริษัทละประมาณ 49% ล่าสุดบริษัทเริ่มจะนำดีไซน์ โนว์ฮาว และนวัตกรรมต่างๆ ของโนมูระ เข้ามาใช้กับ 3 โครงการ ได้แก่ ไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง, ไนท์บริดจ์ ไพรม์ อ่อนนุช, ไนท์บริดจ์ ไพรม์ รัชโยธิน ที่จะเปิดขายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ภายใต้โครงการ “Luxmore”
โครงการ “Luxmore” เป็นแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยของโนมูระ ที่คำนึงถึงปัจจัยสำคัญต่อการใช้ชีวิตในที่อยู่อาศัย 5 ด้าน ได้แก่ 1. การสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์ 2. ความสะดวกในการใช้สอย 3. การใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย 4. ดีไซน์ 5. การบำรุงรักษาและการทำความสะอาด ทำให้โครงการต่างๆ ของโนมูระสามารถสร้างมิติใหม่ในการอยู่อาศัยให้แก่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น และยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560