กองทรัสต์บุกอสังหาฯ2หมื่นล. ‘เอ็มควอเทียร์-โรงแรมดังในประเทศ-ตปท.’จ่อคิวIPO

กองทรัสต์ซุ่มยื่นไฟลิ่งขายหน่วยลงทุนครั้งแรก 3 กอง กว่า 1.6 หมื่นล้านบาท ส่วนอีก 2 กองระดมทุนผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม บลจ.ชี้ผลตอบแทนอสังหาริมทรัพย์ยังน่าสนใจ “สำนักงานออฟฟิศ” ค่าเช่าสูง โรงแรมสดใส รับท่องเที่ยวฟื้น

“ฐานเศรษฐกิจ” รวบรวมข้อมูลทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (กองทรัสต์) ที่ยื่นไฟลิ่ง เสนอขายหน่วยทรัสต์นักลงทุนครั้งแรก(IPO)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)มีจำนวน 3กองทุน มูลค่าโครงการลงทุนประมาณ 1.64 หมื่นล้านบาท และมีกองทรัสต์ที่ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหน่วยทรัสต์แก่ผู้ถือหน่วยเดิม (PO) จำนวน 2 กองทุนได้แก่ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช มูลค่าโครงการ 1,690 ล้านบาทและทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท มูลค่าโครงการ 3,090 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าโครงการที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนรวม 2.12 หมื่นล้านบาท

สำหรับกองทรัสต์ที่จะเสนอขาย IPO ได้แก่ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ภิรัชออฟฟิศ ลงทุนในสิทธิการเช่าพื้นที่ระยะยาวบางส่วนในอาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ และกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ในโครงการภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกับศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ระยะเวลาลงทุนถึงวันที่ 30 กันยายน 2587มูลค่าโครงการไม่เกิน 6,605 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกไม่เกิน 515.31ล้านหน่วยและกู้ยืมเงินระยะยาวในวงเงินไม่เกิน 1,750 ล้านบาท หรือ 26% ของมูลค่าทรัพย์สิน

ในส่วนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าสตราทีจิก ฮอสพิทอลลิตี้ เสนอขายหน่วยทรัสต์ไม่เกิน 550 ล้านหน่วย ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วย มูลค่ารวมไม่เกิน 5,500 ล้านบาท และกู้ยืมเงินไม่เกิน 2,625 ล้านบาทหรือไม่เกิน 30% ของหนี้สินต่อทรัพย์สินรวม รวมมูลค่าเงินลงทุน 8,050 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนในหุ้น 100% ของบริษัท Strategic HospitalityHolding Limited (BVI) ซึ่งลงทุนทางอ้อมผ่านบริษัทโฮลดิ้งต่างประเทศที่เป็นผู้เช่าหลักเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าทรัพย์สินในโรงแรม5แห่ง ในประเทศกัมพูชา 2 แห่ง เวียดนาม 2 แห่ง และอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แกรนด์ โฮลพีทาลิตี้ ซึ่งมีบลจ.วรรณฯ เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ ลงทุนในกรรมสิทธิ์โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา มูลค่าไม่เกิน 1,750 ล้านบาท โดยออกหน่วยทรัสต์ไม่เกิน 175.50 ล้านหน่วย เสนอขายบริษัทแกรนด์ แอสเสทฯและหรือกลุ่มเดียวกันไม่เกิน 10% ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่เสนอขายทั้งหมด และขายนักลงทุนสถาบัน ประชาชนทั่วไปไม่น้อยกว่า 157.95 ล้านหน่วย

นายพจน์หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณฯเปิดเผยว่า แม้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มขาขึ้น แต่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ยังจ่ายเงินปันผลน่าสนใจโดยกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยกลุ่มที่มีรายได้มาจากการท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มที่ดีจากจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง กลุ่มค้าปลีกทิศทางการบริโภคภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จากตัวเลขอัตราค่าโฆษณาปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาประกอบกับ GDP ไตรมาส2/2560 ขยายตัว 3.7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนการฟื้นตัวภาคการบริโภค ส่วนกลุ่มออฟฟิศอัตราค่าเช่าพื้นที่ยังอยู่ในระดับสูง

นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ราคาหน่วยลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีมองว่าผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้วและเป็นโอกาสลงทุน เนื่องจากกองทุนยังให้ผลตอบแทนเฉลี่ยจากเงินปันผล 5-6% ต่อปีขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยมองว่ายังไม่ปรับขึ้นเร็วในปีนี้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560