ซีพีเอฟต่อยอดโครงการปลดหนี้ฯเข้าสู่ปีที่ 3

25 ส.ค. 2560 | 09:43 น.
ซีพีเอฟ ส่งเสริมให้พนักงานและคนงานในโรงงานและฟาร์มรักษาวินัยทางการเงิน  สานต่อโครงการปลดหนี้สร้างสุขและส่งเสริมการออม เข้าสู่ปีที่ 3 เผยตั้งแต่เริ่มโครงการปี 2558 จนถึงก.ค. 2560  ช่วยปลดหนี้นอกระบบและหนี้บัตรเครดิตไปแล้วเกือบ 400 ราย วงเงินรวมกว่า 42 ล้านบาท เดินหน้าต่อยอดโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความสุขในการทำงานให้พนักงาน

นายพุทธชาติ ไผ่พุทธ  รองกรรมการผู้จัดการ  บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  กล่าวว่า  บริษัทให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของพนักงาน  จึงได้จัดโครงการปลดหนี้สร้างสุขและส่งเสริมการออม  เป็นโครงการที่มีเป้าหมายช่วยปลดหนี้ให้กับพนักงาน โดยหาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ ปล่อยกู้แก่คนงานในฟาร์มหรือโรงงานและพนักงานที่มีภาระหนี้นอกระบบและหนี้บัตรเครดิต  ซึ่งหลังจากริเริ่มดำเนินโครงการดังกล่าวโดยสายธุรกิจสุกรมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 31 กรกฎาคม 2560) มีจำนวนผู้กู้(สายธุรกิจสุกร)ที่ได้รับอนุมัติเงินกู้รวม 321 คน  จาก 71 ฟาร์ม/โครงการ  วงเงินกู้รวม 37 ล้านบาท  และปัจจุบันได้ขยายโครงการฯไปยังสายธุรกิจอื่นๆของซีพีเอฟครบทุกสายธุรกิจแล้ว

PHOTO1 ในจำนวนผู้กู้ 321 คนในสายธุรกิจสุกร สามารถปิดบัญชีก่อนกำหนด  7 คน โดยในปี 2560 นี้ โครงการปลดหนี้ฯ ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว จากการสอบถามผู้จัดการฟาร์มและโครงการถึงผลดำเนินงานในช่วง  2 ปีที่ผ่านมา พบว่าคนงานมีความสุขในการทำงานมากขึ้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานและครอบครัว

“จากการดำเนินโครงการมาถึงปีที่ 3 แล้ว  ในส่วนของสายธุรกิจสุกรจะกลับไปดูแลความเป็นอยู่ของผู้กู้   ผู้ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ฯ เช่น  กลับไปติดตามและ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาด้านการเงินที่ได้ดำเนินมาถึงปัจจุบัน รวมถึงแก้ปัญหาด้านการเงินที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก สนับสนุนและส่งเสริมการสร้างวินัยการออม  แนะนำรูปแบบการออมต่างๆ ตามความสมัครใจ  ผู้ไม่มีปัญหาการเงิน จะเน้นออมเพื่อสร้างอนาคต ผู้มีปัญหาหนี้สินอยู่ ก็จะเน้นการออมเพื่อปลดหนี้ต่อไป” นายพุทธชาติ กล่าว

ด้านนางจิตภินันท์  รัตนชัยสุวรรณ  รองกรรมการผู้จัดการ ด้านบริหารงานพนักงานสัมพันธ์  ซีพีเอฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า  โครงการปลดหนี้สร้างสุขและส่งเสริมการออม ซึ่งเริ่มดำเนินการโดยสายธุรกิจสุกร นำร่องใน 12 ฟาร์ม  5 จังหวัดทั่วประเทศ  จากนั้นขยายโครงการฯไปยังสายธุรกิจอื่นๆของซีพีเอฟ  บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์  โดยมีสถาบันการเงิน 3 รายที่ร่วมให้กู้ในโครงการ  คือ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  โดยล่าสุดอยู่ระหว่างทำบันทึกข้อตกลงกับบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจพลาสติก ที่จะเข้าร่วมโครงการด้วย

สำหรับภาพรวมผลดำเนินงานของโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2558 ถึง 31 ก.ค. 2560 มียอดผู้กู้ (รวมสายธุรกิจสุกร ซึ่งมีจำนวนผู้กู้ 321 คน) รวม 393 คน  วงเงินกู้รวมกว่า 42 ล้านบาท

Photo3 จากการสำรวจคนงานในฟาร์มและโครงการ ซึ่งเป็นผู้กู้ในโครงการปลดหนี้ฯ และเป็น 1 ใน 7 รายที่สามารถชำระหนี้ได้หมดภายใน 2 ปี เล่าว่า ก่อนสมัครเข้าร่วมโครงการปลดหนี้ฯ  มีภาระหนี้นอกระบบและหนี้บัตรเครดิต ภาระค่างวดผ่อนรถ ทำให้รายได้ที่ได้รับต่อเดือนไม่เพียงพอใช้หนี้  ติดลบทุกเดือน หนี้สินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  แต่หลังจากที่สมัครเข้าร่วมโครงการและได้รับอนุมัติวงเงินกู้แล้ว  ช่วยปลดภาระหนี้  การบริหารเงินดีขึ้น ทำให้มีความสุขในการทำงานมากขึ้น นอกจากนี้ยังรู้จักทำบัญชีรายรับรายจ่ายของครัวเรือน รวมทั้งยังมีเงินที่เหลือพอเก็บออมได้ส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ โดยสายธุรกิจสุกร ดำเนิน “โครงการปลดหนี้สร้างสุขและส่งเสริมการออม” มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 เนื่องจากพบว่าพนักงานมีปัญหาหนี้สิน ไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้สินให้หมดไปได้ด้วยตัวเอง ขาดความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน ทำให้เกิดความเครียดในการทำงาน และประสิทธิภาพการทำงานลดลง โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อปลดหนี้นอกระบบและหนี้บัตรเครดิตให้แก่คนงานหรือพนักงาน พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการทางการเงิน การทำบัญชีรายรับรายจ่ายครัวเรือน และส่งเสริมการออม