ทอท.ร่วมจัดงานสัมมนา Indochina Aviation Conference 2017

24 ส.ค. 2560 | 08:55 น.
ทอท. ร่วมจัดงานสัมมนา Indochina Aviation Conference 2017 (IAC 2017) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคอินโดจีน โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบินของภูมิภาคอินโดจีนร่วมในงาน ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 23 – 24 สิงหาคม 2560

S__6135894 นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาคอินโดจีน ได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เมียและเวียดนาม มีส่วนสำคัญต่อการเติบโต ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นอย่างมาก เนื่องจากภูมิภาคอินโดจีนมีการเติบโตของธุรกิจสายการบินที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายการบินต้นทุนต่ำ (Low Cost Carrier: LCC) ซึ่งการเดินทางโดย LCC มีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าภูมิภาคอื่นของโลก ทั้งยังเป็นกลุ่มประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทาง การเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในอนาคตอีกด้วย

สำหรับประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศที่จะส่งเสริมการพัฒนาเชิงเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มประเทศอินโดจีน ให้สามารถเติบโตไปพร้อมกันอย่างสมดุล ทั้งนี้ ทอท.ในฐานะผู้บริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนความพร้อมของประเทศในการต้อนรับผู้โดยสารจากทั่วโลก โดยปริมาณการจราจรทางอากาศของผู้โดยสารสัญชาติในกลุ่มประเทศอินโดจีนผ่านท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.ช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2560 มีจำนวน 9.80 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.1 ของจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศทั้งหมดที่มีจำนวน 40.66 ล้านคน และเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.4

S__6135896 นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากศักยภาพของภูมิภาคอินโดจีน ซึ่งจะมีบทบาทต่ออุตสาหกรรมการบินของโลกในอนาคต ทอท.จึงได้ร่วมกับบริษัท Sphere Exhibits Private Company Limited จัดงานสัมมนา Indochina Aviation Conference 2017 (IAC 2017) ระหว่างวันที่ 23 – 24 สิงหาคม 2560 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ
ซึ่งมีหัวข้อหลักในการสัมมนา คือ “Greater Heights Accelerating Growth in Indochina Aviation” โดยได้เชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สายการบิน ผู้ประกอบการ ผู้บริหารท่าอากาศยาน เข้าร่วมงานประมาณ 150 คน
งานสัมมนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมการบิน และเตรียมความพร้อมการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการบินในภูมิภาค ตลอดจนผลักดันอุตสาหกรรมการบินให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างมั่นคง ทั้งนี้ ทอท.ได้เชิญนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมแสดงปาฐกถาในหัวข้อ “Indochina, Next Aviation Hub in South East Asia” ในวันที่ 24 สิงหาคม 2560

S__6135895 ภายในงานสัมมนามีการอภิปรายในประเด็นต่างๆ ได้แก่ การบริหารจัดการอุตสาหกรรมการบิน โอกาสในการสร้างรายได้ การวางแผนและการพัฒนาในอุตสาหกรรม การนำเทคโนโลยีมาใช้การดำเนินธุรกิจ และด้านความปลอดภัยการบิน ซึ่งมีหัวข้อและผู้ร่วมอภิปราย เช่นMueller, Station Manager Bangkok, Lufthansa Group Hub Airlines อภิปรายร่วมกับ นายธีรพล โชติชนาภิบาล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), Mr.Alain Brun, Business Development Director, Asia Pacific, VINCI Airports Singapore and Mr.Sulaiman Zainul Abidin, Chief Operating Officer, Yangon Aerodrome Company ในหัวข้อ “Future proofing airports – Designing to exceed expectations” รวมทั้ง  Mr.Peter Wiesner, Advisor to Board, Bangkok Airways, Capt. Peter Weiss, Aviation Safety Expert, ASEAN
Air Transport Integration Project และนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อภิปรายในหัวข้อ “ASEAN Open Skies – Can Asia really become a Single Aviation Market (SAM)”

S__6135897
นอกจากนั้นมีการอภิปรายในหัวข้อ “FSCs and LCCs – What is changing and what does the future hold for the industry?” โดยมี Mr.Ardy Protini, Commercial Expert, Garuda Indonesia อภิปรายร่วมกับนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย และการอภิปรายในหัวข้อ “Where does Indochina’s aviation safety standard stand comparing to the rest of the world?” โดย Capt.Peter Weiss, Aviation Safety Expert, ASEAN Air Transport Integration Project

นายนิตินัย กล่าวในตอนท้ายว่า การจัดงานสัมมนาดังกล่าว ทอท.มุ่งหวังว่าจะเกิดการสร้างเครือข่ายระหว่างองค์กรในอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอินโดจีน และทำให้เกิดการเตรียมความพร้อมการรองรับการขยายตัวของธุรกิจการบิน ซึ่งจะสามารถนำไปประยุกต์และผลักดันอุตสาหกรรมการบินให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างมั่นคงบนรากฐานของความร่วมมือในภูมิภาค รวมทั้งยังเป็นการแสดงถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในกลุ่มประเทศอินโดจีนที่จะส่งผลดี ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมต่อไป