จีเอ็ม ปรับโครงสร้างธุรกิจเชฟโรเลต ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

23 ส.ค. 2560 | 10:07 น.
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจทั้งหมดทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นแบบบูรณาการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นพร้อมเพิ่มยอดขายของเชฟโรเลต และความสามารถในการสร้างผลกำไรที่ดียิ่งขึ้น

cq

“ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง เราไม่หยุดยั้งที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจของเราให้สอดคล้องกับตลาด ด้วยการพัฒนาให้จีเอ็มเป็นบริษัทที่มีแบบแผนและเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับภาพรวมในระดับโลก เรามีการดำเนินธุรกิจในตลาดที่ถูกต้องและมีศักยภาพในการสร้างผลกำไร  อีกทั้งยังมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลประกอบการจากธุรกิจ และมีการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาวซึ่งรวมถึงการดำเนินธุรกิจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย และในวันนี้ เราได้ก้าวสู่การพัฒนาส่วนการปฏิบัติงานต่างๆให้สามารถเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันและการบริหารต้นทุนที่ดียิ่งขึ้น” สเตฟาน จาค็อบบี รองประธานบริหาร จีเอ็ม และประธานกรรมการ จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว

การปรับโครงสร้างในครั้งนี้ ได้แต่งตั้ง  "เอียน นิโคลส์" ที่จะมารับตำแหน่งประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน นี้ โดยนิโคลส์จะประจำอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และรายงานต่อจาค็อบบี

"ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์เกือบ 3 ทศวรรษ รวมถึงการทำงานกับจีเอ็มมานานกว่า 27 ปี "เอียน นิโคลส์"จะนำประสบการณ์มากมายในด้านการวางแผนผลิตภัณฑ์ การขาย และการตลาดมาใช้กับตำแหน่งใหม่นี้ โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายรถอเนกประสงค์และรถกระบะระดับโกลเบิลของจีเอ็มในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ จีเอ็มแอฟริกา เขตซับ-ซาฮารา

จาค็อบบีกล่าวว่า  “เอียนเป็นผู้นำที่มีประสบการณ์ในระดับโลกอย่างแท้จริง และภายใต้การบริหารงานของเอียน เราจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจของเราให้มีความเรียบง่าย เพื่อพัฒนาการบริการแก่ลูกค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์เชฟโรเลตและเพิ่มยอดขาย การที่เรามีผู้นำระดับภูมิภาคเพียงคนเดียว พร้อมกับทีมผู้บริหารใหม่ทั้งหมดแทนการมีกรรมการผู้จัดการถึง 4 คน จะช่วยให้เอียนสามารถบริหารงานในโครงสร้างธุรกิจที่มีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งครอบคลุมการบริหารธุรกิจในประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ตลอดจนตลาดผู้จัดจำหน่ายต่างๆ ภายใต้วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ระดับภูมิภาคเดียวกัน”

สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญสำหรับจีเอ็ม โดยบริษัทผลิตยานยนต์มากมายหลายรุ่นในภูมิภาคนี้ รวมทั้งรถกระบะและรถอเนกประสงค์เอสยูวีที่ได้รับรางวัลต่างๆซึ่งผลิตที่โรงงานในจังหวัดระยองของประเทศไทย ทั้งนี้ เชฟโรเลต รุ่นโคโลราโด และรุ่นเทรลเบลเซอร์ ล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งกับตลาดเหล่านี้และตลาดส่งออก

นิโคลส์กล่าวว่า “โครงสร้างธุรกิจแบบบูรณาการจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถได้ในระดับภูมิภาคสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ เร่งกระบวนการตัดสินใจ และลดขั้นตอนการดำเนินงานที่ล่าช้า และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจยังทำให้เราสามารถยกระดับการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมมากขึ้น เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแก่ลูกค้าที่ดีที่สุด พร้อมกับทำให้ธุรกิจของเรามีขีดความสามารถทางการแข่งขันในระดับภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีฐานการผลิตที่มั่นคง มีทัศนคติของลูกค้าเชิงบวกต่อผลิตภัณฑ์ในทั่วภูมิภาค และธุรกิจส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบในการรับโอกาสเติบโตทางธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มที่”

ส่วนทางด้าน ซูมิโตะ อิชิ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม เวียดนาม และรักษาการกรรมการผู้จัดการจีเอ็ม ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย จะเข้ารับตำแหน่งใหม่เป็นรองประธานฝ่ายขาย การบริการ และการตลาด (วีเอสเอสเอ็ม) ของจีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเขาจะช่วยนิโคลส์ในการดูแลรับผิดชอบฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และฝ่ายบริการหลังการขายในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ในขณะเดียวกัน อิชิจะยังคงกำกับดูแลเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของจีเอ็มในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจีเอ็มดำเนินธุรกิจร่วมกับหุ้นส่วนท้องถิ่น (ประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา ฟิจิ ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เมียนมาร์ นิว คาเลโดเนีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ตาฮิติ และวานูอาตู)

ขณะที่ เการาฟ กุปตา ประธานอำนวยการ จีเอ็ม อินโดนีเซีย ตัดสินใจลาออกจากจีเอ็มเพื่อแสวงหาโอกาสทางอาชีพอื่น หลังจากที่ร่วมงานกับจีเอ็มมานานกว่า 20 ปี “ผมขอขอบคุณเการาฟสำหรับความมุ่งมั่นทุ่มเทที่มีต่อจีเอ็มในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและก่อนหน้านั้นที่เวียดนาม เขาเป็นผู้นำการปรับเปลี่ยนธุรกิจของเชฟโรเลตอย่างแท้จริงด้วยความสำเร็จในการเปิดตัวรถรุ่นใหม่หลายรุ่น ปรับโครงสร้างเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย และสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์”