4ตระกูลเมืองไทยอู้ฟู่ บริษัทในตลาดหุ้นโกยกำไร4หมื่นล. พลังงานคุยไตรมาส3ฉลุย

24 ส.ค. 2560 | 23:15 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

กลุ่มเจริญ-ซีพี-หมอเสริฐ-จิราธิวัฒน์ รํ่ารวยขึ้น บริษัทในเครือในตลาดหุ้นสร้างผลงานเด่น ยกเว้นทรูขาดทุนกว่า 2,397 ล้านบาท กลุ่มปราสาททองยิ้มออกโรงพยาบาลกรุงเทพฟาดกำไรกว่า 3,790 ล้านบาท

“ฐานเศรษฐกิจ”รวบรวมผลประกอบการบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของ 4 ตระกูลชื่อดังในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ กลุ่มนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และกลุ่มจิราธิวัฒน์ ในช่วงครึ่งแรกปี 2560 มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 39,002.77 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39,380.43 ล้านบาท

ขณะที่ไตรมาส 2/2560 มีกำไรสุทธิรวมกัน 18,968.80 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวม 17,540.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,428.26 ล้านบาท ขยายตัวเพียง 8.14% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัวถึง 3.7% สูงกว่าที่คาดการณ์ก็ตาม

ในส่วนของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี มีบริษัทอยู่ในตลาด 8 บริษัท มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 7,584 ล้านบาท เติบโต 20.72% คิดเป็นเงินประมาณ 1,302 ล้านบาท จากบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ฯ (BJC)เติบโตก้าวกระโดด เพิ่มเป็น 1,960 ล้านบาท แต่บริษัทในกลุ่มยังไม่มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแต่อย่างใด

สำหรับกลุ่มซีพี มีบริษัท 4 แห่ง กำไรสุทธิรวม 17,888 ล้านบาท ลดลงประมาณ 12% เพราะ บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ขาดทุนสุทธิ 2,397 ล้านบาท

ทางด้าน บริษัทกลุ่มปราสาททองโอสถ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากถึง 128% ในไตรมาส 2/2560 มาจากบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS สูงกว่า 3,790 ล้านบาท แม้จะขาดทุนจากบริษัท การบินกรุงเทพก็ตาม กลุ่มจิราธิวัฒน์ที่มีการขยายการลงทุนออกไปต่างประเทศ รวมถึงในประเทศด้วย กำไรโดยรวมครึ่งปีนี้โต 9.31% และไตรมาส 2 ขยายตัว 6.93%

ในส่วนธุรกิจพลังงานที่มีกำไรสุทธิสูงกลุ่มหนึ่งในตลาด หลักทรัพย์ฯ ผู้บริหารต่างคาดว่าแนวโน้มในไตรมาส 3 จะขึ้นกว่าไตรมาส 2 โดย นางสาวภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านการเงินและบัญชี บริษัทไทยออยล์ฯ (TOP) คาดว่าในไตรมาส 3 บริษัทจะมีกำไรจากสต๊อกนํ้ามันเกือบ 2,000 ล้านบาท จากในช่วงไตรมาส 2 ขาดทุนจากสต๊อกนํ้ามันอยู่ 2,076 ล้านบาท รวมทั้งปีนี้จะมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ไม่รวมสต๊อก เป็นไปตามคาดที่ระดับ 8-9 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

MP17-3290-A นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานการเงินองค์กร และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 4.4 แสนล้านบาท เติบโต 26%

ก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานผลงานบริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 2560 รวม 5.17 แสนล้านบาท เติบโต 5.62% โดยมียอดขายรวม 5,430,488 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.09% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 23.26% ลดลงเมื่อเทียบกับ 25.06% ของช่วงเดียวกันในปีก่อน เฉพาะไตรมาส 2/2560 มีกำไรสุทธิ 225,668 ล้านบาท ลดลง 9.54% มีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงมาอยู่ที่ 22.43% จากระดับ 25.52%

อย่างไรก็ตาม บริษัทใน SETและตลาดหลักทรัพย์ (mai) รวม 117 บริษัท จ่ายเงิน ปันผลทั้งเงินสดและหุ้น มูลค่ารวม 93,883 ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมาที่มีการประกาศเงินปันผล อยู่ที่ 88,043 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,290 วันที่ 24 - 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560