ทรูมันนี่ วางโรดแมปปีนี้มุ่งขยายบริการชำระเงิน ทั้งซื้อตั๋วหนัง-ตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม พร้อมดันฐานลูกค้าใช้งานประจำเพิ่มเป็น 4 ล้านรายสิ้นปีนี้ ก่อนขยายบริการสินเชื่อส่วนบุคคล-ประกัน-การลงทุน ไตรมาส 2 ปีหน้า
ปีนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของไทยในการก้าวเข้าสู่ สังคมไร้เงินสด หรือ แคส เลส โซไซตี้ โดยมี 3 กลุ่มใหญ่ในระบบนิเวศ ที่เดินหน้า ปลุกตลาดเต็มที่ ประกอบกับภาครัฐมีนโยบาย ส่งเสริมการใช้พร้อมเพย์คาดว่าใน 2-3 ปีข้างหน้า ธุรกรรมการเงินดิจิตอลที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 20% จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความสะดวกสบาย จะมีการใช้เงินดิจิตอลเต็มรูปแบบ
นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะมุ่งการขยายบริการชำระเงินอิเล็กทรอ นิกส์ หรืออี-เพย์เมนต์ เป็นหลัก ทั้งการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรร้านค้า ร้านอาหาร บริการรับจองที่พักโรงแรม บริการสั่งอาหารออนไลน์ และชำระเงินตั๋วเครื่องบิน รวมถึงสร้างฐานผู้ใช้บริการรายใหม่ขึ้นมา โดยขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนใช้งานกระเป๋าเงินอิเล็กทรอ นิกส์ หรือ อี-วอลเล็ต “ทรูมันนี่” 6 ล้านราย ซึ่งเป็นผู้ใช้งานประจำ 3 ล้านราย คาดว่าภายในสิ้นปีผู้ใช้งานประจำจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านราย และเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านรายในปีหน้า
โดยในปีนี้บริษัทจะเริ่มขยายบริการทางการเงินใหม่ๆ เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2 จะเปิดบริการสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านทรูมันนี่ หลังจากนั้นจะเปิดให้บริการการลงทุน และประกัน โดยหัวใจสำคัญของการขยายบริการการเงินใหม่ๆ คือ ข้อมูลลูกค้าที่ใช้บริการอี-เพย์เมนต์ ที่สามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ตามที่ผู้ใช้บริการต้องการ
นายปุณณมาศ กล่าวต่อไปอีกว่าทรูมันนี่ มีการเติบโตทุกปี ปีละ 10-15% โดยขณะนี้ผู้ใช้บริการมียอดใช้จ่ายต่อหัวอยู่ราว 200 บาท โดยมีการใช้งานเฉลี่ย 7 ครั้งต่อเดือน จากเดิม 3 ครั้งต่อเดือน และคาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายหลังเปิดให้บริการการเงินใหม่ๆ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,290 วันที่ 24 - 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560