ผุด‘มิกซ์ยูส’เต็มเมือง บิ๊กอสังหาฯปรับแผนรุก หวังสร้างรายได้ระยะยาว

26 ส.ค. 2560 | 03:30 น.
บิ๊กอสังหาฯปรับกลยุทธ์รับภูมิทัศน์ธุรกิจเปลี่ยน จากขายบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม หันสู่ธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ในระยะยาว ทุกรายเล็งโครงการมิกซ์ยูส

ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการโครงการที่อยู่อาศัยรายใหญ่หลายรายเริ่มมีการปรับตัวให้เข้ากับผู้ซื้อมากขึ้นทั้งการออกแบบโครงการที่ทันสมัย การเปิดขายโครงการในรูปแบบใหม่ๆ รวมไปถึงการพยายามสร้างความน่าสนใจและความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในตลาดโดยการร่วมทุนกับผู้ประกอบการหรือบริษัทต่างชาติ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในองค์กร หรือเพิ่มเติมในส่วนของการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรให้มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีการปรับตัวเร็วที่สุด และเป็นกลุ่มที่จำเป็นต้องมองถึงการขยายตัวในระยะยาว รวมไปถึงเป็นกลุ่มที่บริษัทต่างชาติให้ความสนใจหรือว่า มองเห็นศักยภาพได้ชัดเจนกว่านั่นเอง

[caption id="attachment_130975" align="aligncenter" width="503"] สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย[/caption]

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหญ่จะมีการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดอยู่ตลอดเวลาทั้งในส่วนของคู่แข่งและกำลังซื้อ ทำให้ยังคงสามารถเปิดขายโครงการได้ต่อเนื่อง และรักษาการขยายตัวทั้งในเรื่องรายได้หรือว่าผลกำไรได้ต่อเนื่องเช่นกัน บางบริษัทจากที่เคยมีกำไรหรือรายได้หดหายไปในช่วงก่อนหน้านี้ก็พลิกกลับมามีรายได้มากขึ้น

รูปแบบหนึ่งการปรับตัวของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เห็นได้ชัดคือ การที่ผู้ประกอบการหลายรายมีการพัฒนาโครงการ mixed-use หรือโครงการรูปแบบอื่นมากขึ้น เพราะกลุ่มนี้เริ่มมองถึงการสร้างรายได้จากธุรกิจรูปแบบอื่นๆ ไม่ใช่รายได้จากการขายบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมเท่านั้น โดยรูปแบบโครงการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ให้ความสนใจนั้นจะเป็นโครงการที่สามารถสร้างรายได้ได้ระยะยาว เช่น โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน โครงการค้าปลีก โรงแรม

แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ยังไม่มีการปรับตัวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายกลางลงไป ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่อาจจะมีปัญหาในระยะยาวส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายกลางหรือรายเล็ก ที่เงินทุนอาจจะไม่เอื้อให้พวกเขามองการลงทุนในระยะยาวได้เทียบเท่าผู้ประกอบการรายใหญ่ อีกทั้งการจะปรับเปลี่ยนภายในองค์กรก็อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของบุคลากรและโครงสร้างการบริหารงาน

สิ่งที่ผู้ประกอบการหรือบริษัทขนาดกลางและเล็กที่ยังไม่ปรับตัว ควรเริ่มก่อนเป็นลำดับแรกคือการสำรวจคู่แข่งในตลาดที่เปิดขายโครงการรูปแบบและระดับเดียวกัน รวมไปถึงพิจารณาทำเล กำลังซื้อต่างๆ ให้รอบด้านก่อนจะตัดสินใจซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ แม้ว่าที่ดินบางทำเลจำเป็นต้องตัดสินใจเร็วก็
ตาม เพราะมีผู้ประกอบการรายกลางลงไปหลายรายเปิดขายโครงการในราคาที่ผิดจากคู่แข่งไปมากเพราะว่าต้นทุนที่ดินที่ได้มานั้นสูงมาก ทำให้ขายได้ช้า ประกอบกับรูปแบบโครงการของผู้ประกอบการรายกลางและ
เล็กนั้นอาจจะไม่ได้โดดเด่นหรือว่ามีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาขายหรือเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในทำเลเดียวกัน

MP29-3290-1 “ที่สำคัญสิ่งที่ผู้ประกอบการที่ยังไม่มีการปรับตัวจำเป็นต้องตระหนักคือ พฤติกรรมและรายได้ของผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป การพัฒนาโครงการในแบบเดิมๆ ที่เคยทำมาแล้วประสบความสำเร็จในอดีตใช้กับปัจจุบันไม่ได้แล้ว ไม่เพียงแต่ผู้ซื้อที่เปลี่ยนไปเท่านั้นแต่ผู้ประกอบการที่เป็นคู่แข่งก็เปลี่ยนไปเช่นกัน”

อีกทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนหรือว่าการขอสินเชื่อที่มีความเข้มงวดมากขึ้นทั้งในฝั่งของผู้ซื้อที่โดนการตรวจสอบเข้มข้น ฝั่งของผู้ประกอบการเองก็มีความเข้มงวดไม่แพ้กันเพราะธนาคารก็ระวังเรื่อง
ของหนี้เสียในระยะยาวด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการรายกลางลงไปต้องหาทางออกให้ได้ทั้งเรื่องของสินเชื่อโครงการและของผู้ซื้อเพื่อจะได้ไม่กระทบกับการสร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทอสังหาฯชั้นนำ มีการปรับตัวลงมาทำตลาดทุกส่วน เพื่อรักษาความเติบโตอย่างยั่งยืนของตัวเองเอาไว้ ทำให้ขณะนี้ 13 บริษัทหลักในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครองตลาดกว่า 61% ฉะนั้นหากบริษัทใดไม่มีโมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่นพอ เวลาตลาดหดตัว ก็ไม่มีทางออก นี่คือเหตุผลที่ทุกบริษัทต้องแตกตัวไปทำทุกส่วนตลาด ทุกระดับราคา ทุกสินค้า และทุกพื้นที่ ทำกรุงเทพฯอย่างเดียวไม่พอ ต้องทำตลาดต่างจังหวัดด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,290 วันที่ 24 - 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560