กู๊ดเยียร์ เผยผลประกอบการไตรมาส2

21 ส.ค. 2560 | 12:48 น.
นายริชาร์ด เจ. เครเมอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด กล่าวว่า ยอดขายในไตรมาส 2 ปี 2560 ของกู๊ดเยียร์ คิดเป็นมูลค่า 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจาก 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2559 ส่วนใหญ่เนื่องมาจากยอดผลิตยางลดลง ซึ่งก็ได้รายได้จากการขายส่วนหนึ่งมาชดเชย

ทั้งนี้ ปริมาณการขายยาง มียอดรวมทั้งสิ้น 37.4 ล้านเส้น ลดลง 10% จากปี 2559 โดยเฉพาะในทวีปยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา และทวีปอเมริกา โดยยอดจำหน่ายยางรถยนต์ทดแทนลดลง 11% และยอดจำหน่ายยางรถยนต์ติดรถ (OE) ลดลง 8% Richard J Kramer

กำไรสุทธิของกู๊ดเยียร์ประจำไตรมาส 2 ปี 2560 คิดเป็นมูลค่า 147 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (58 เซ็นต์ต่อหุ้น) ลดลงจาก 202 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (75 เซ็นต์ต่อหุ้น) ในงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิที่ปรับแล้วในไตรมาส 2 ปี 2560 คิดเป็นมูลค่า 177 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (70 เซ็นต์ต่อหุ้น) ลดลงจาก 314 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.16 ดอลล่าร์ต่อหุ้น) ในปี 2559 อัตรากำไรต่อหุ้นจึงปรับตัวลดลง

โดยกู๊ดเยียร์ รายงานรายได้จากการดำเนินงานธุรกิจยางในไตรมาส 2 ของปี 2560 มูลค่า 361 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจาก 531 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยปริมาณยอดจำหน่ายยางรถยนต์ที่ลดลงและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งได้ยอดขายจากส่วนผสมทางการตลาดและการประหยัดต้นทุนที่ดีขึ้น เข้ามาชดเชยบางส่วน

นาย เครเมอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้เผยผลประกอบการที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงภาวะต้นทุนวัตถุดิบผันผวน รวมถึงสภาพการแข่งขันที่มีความท้าทายสูงขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป”

“นอกจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นแล้ว ตลาดยางรถยนต์ติดรถ (OE) ยังชะลอตัวลงและความต้องการยางทดแทนในช่วงครึ่งปีแรก ทุกตลาดหลัก ก็ลดลงด้วย แม้พื้นฐานของอุตสาหกรรมจะยังคงแกร่งก็ตาม” นายเครเมอร์ กล่าว

Goodyear_Social_02

“ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกันเหล่านี้ ปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจในครึ่งปีแรกจึงแปรผันอย่างมาก ซึ่งระยะการเดินทางขับขี่ ราคาน้ำมันเบนซิน และอัตราการว่างงาน โดยปกติแล้วเป็นส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมของเรานั้น มีแนวโน้มในอนาคตที่สดใส” นายเครเมอร์กล่าว

“ท่ามกลางสภาพตลาดโลกที่ท้าทายในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 เราจึงลดตัวเลขคาดการณ์รายได้จากการดำเนินงานลง สำหรับช่วงที่เหลือของปี” เขากล่าว “แม้จะมีความท้าทายในระยะสั้น แต่ผมยังคงเชื่อมั่นในความสามารถและศักยภาพของเรา สำหรับการทำเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ให้สำเร็จท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมระดับเมกะเทรนด์ที่มีแนวโน้มที่ดี”

ยอดขายของกู๊ดเยียร์สำหรับหกเดือนแรกของปี 2560 มีมูลค่า 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับปี 2559 ในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นผลกระทบมาจากยอดจำหน่ายรวมลดลง ซึ่งได้ยอดขายที่ดีขึ้นจากส่วนผสมทางการตลาด มาชดเชยบางส่วน

top_tyre2014_05

ในส่วนของยอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 77.4 ล้านเส้น ลดลง 7% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 โดยที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทน (Replacement) ลดลง 6% สะท้อนถึงภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ขณะที่ปริมาณจำหน่ายยางติดรถ ลดลง 8% เนื่องจากมีปริมาณการผลิตลดลง

กำไรสุทธิตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันของกู๊ดเยียร์มีมูลค่า 313 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.23 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) ลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2559 ที่มูลค่า 386 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.43 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) ซึ่งกำไรต่อหุ้นทั้งหมดมีการปรับตัวลดลง

กู๊ดเยียร์รายงานรายได้จากการดำเนินธุรกิจยางช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ที่ 746 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจาก 950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น และยอดจำหน่ายยางที่ลดลง อย่างไรก็ดี ยอดขายจากส่วนผสมทางการตลาดที่ดีขึ้น และการประหยัดต้นทุน ได้เข้ามาช่วยชดเชยรายได้ที่ลดลงบางส่วน