ฐานโซไซตี : พิษขายข้าวจีทูจี “บุญทรง-ภูมิ”ส่ออาการหนัก!

ฐานโซไซตี
โดย.. ว.เชิงดอย

พิษขายข้าวจีทูจี “บุญทรง-ภูมิ”ส่ออาการหนัก!!!

25 สิงหาคม วันพิพากษา “คดีจำนำข้าว” และ “คดีระบายข้าว” ใกล้เข้ามาทุกขณะ กระบวนการทุกอย่างก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะตัดสินชี้ชะตาทั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์  ภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ และพรรคพวกอีก 26 คน ได้ผ่านขั้นตอนต่างๆ ไปครบถ้วนแล้ว โดยเฉพาะการยื่นคำแถลงปิดคดีด้วยลายลักษณ์อักษรของทั้ง 2 ฝ่าย


ในส่วนของฝ่ายโจทก์คือ อัยการสูงสุด โดย สุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน บอกว่า คณะทำงานอัยการได้ยื่นคำแถลงปิดคดีทั้ง 2 คดี เป็นลายลักษณ์อักษร ต่อองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยคำแถลงการปิดคดีโครงการรับจำนำข้าวของ ยิ่งลักษณ์ มีความยาว 211 หน้า ส่วนคดี บุญทรงกับพวก มีความยาว 165 หน้า รวม 2 สำนวน ยาว 376 หน้า ซึ่งทั้ง 2 คดี มีความสัมพันธ์เกี่ยวพันกัน จึงได้ยื่นคำแถลงปิดคดีพร้อมกัน

บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์

 สำหรับรายละเอียดคำแถลงการณ์ปิดคดีของอัยการในส่วนของ ยิ่งลักษณ์ นั้น สุรศักดิ์ ชี้ว่าเป็นการสรุปประเด็นข้อพิพาทว่ามีประเด็นใดบ้างที่มีการสืบพยานที่ผ่านมา ตรงไหนรับฟังได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร หักล้างกันได้อย่างไร ซึ่งการแถลงปิดคดีก็เพื่อให้ศาลมองประเด็นที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำเสนอมา เพื่อประกอบการพิจารณา

“ว.เชิงดอย” สืบทราบมาว่าในส่วนของ “คดีจีทูจีข้าวเก๊”ที่มี บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ และพวกรวม 28 ราย ตกเป็นจำเลยนั้น ทางฝ่าย “อัยการ” ได้ตอกยํ้าให้เห็นถึงกระบวนการทุจริตการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ที่ไม่มีเกิดขึ้นจริง ไม่ปรากฏข้อมูลว่า รัฐมีการส่งออกข้าวออกนอกราชอาณาจักรไทยไปยังประเทศจีนผู้ซื้อจริง



แถมข้าวที่รับจำนำมานั้นได้นำไปสู่การเวียนเทียนขายให้ผู้ประกอบการในประเทศด้วยราคาตํ่า โดยยกเว้นไม่ต้องให้คู่สัญญาแสดงหลักฐานการส่งออกข้าว และไม่ตรวจสอบการส่งข้าวออกไปนอกราชอาณาจักร ขณะเดียวกันมีการเปิดช่องให้ชำระค่าข้าวด้วย “แคชเชียร์เช็ค” เป็นการตัดช่องทางการตรวจสอบการส่งข้าวออกนอกราชอาณาจักร และเอื้อต่อการนำไปเวียนเทียนขายในประเทศ



ฝ่ายอัยการยังจับพิรุธได้ว่า มีการจงใจให้การส่งมอบข้าวตามสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ เป็นความลับเพื่อประโยชน์ในการทุจริตอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อเท็จจริงในเรื่องราคาข้าวต่อตัน ปริมาณข้าว การเบิกข้าว ตามสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐและตัวคู่สัญญาที่ซื้อข้าว ตลอดจนผู้รับมอบข้าวที่แท้จริง นอกจากนั้นอัยการ ยังจับพิรุธได้อีกว่า จำเลยมีหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบการมอบอำนาจและชำระเงินตามสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และรู้ดีว่าเงินที่ชำระค่าข้าวไม่ได้มาจากรัฐบาลประเทศจีน อีกทั้งข้าวนั้นถูกนำไปเวียนขายให้ผู้ค้าในประเทศไทย



“ฝ่ายอัยการ” ได้ตอกยํ้าว่า คดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้อขัดแย้งทางการเมืองใดๆ เป็นแค่เพียงการทุจริตที่อาศัยความร่วมมือกันหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการประจำ และฝ่ายเอกชน ร่วมกันทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ จนเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง...


จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาตามข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน และคำให้การ เพื่อให้ปรากฏชัดแก่ประเทศชาติและประชาชน อันเป็นการจารึกชื่อบุคคลที่มีส่วนร่วมกระทำผิดไว้ในประวัติศาสตร์ ให้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกันสืบไป... เห็นคำแถลงปิดคดีของฝ่ายอัยการ และจากการติดตามการไต่สวนคดีจีทูจีข้าวของฝ่ายจำเลยแล้ว บอกได้คำเดียวว่างานนี้“บุญทรง-ภูมิ-พวก” อาการหนักแน่!

ปิดท้ายที่ สภามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีมติเป็นเอกฉันท์มอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ให้ “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำหรับพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จะมีขึ้นในวันที่27ธันวาคม ณ มศว. อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก
คอลัมน์ : ฐานโซไซตี / หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ/ ฉบับ 3289 ระหว่างวันที่ 20-23 ส.ค.2560