‘ล็อกเรต-ลดค่าต๋ง’ อุ้มเอสเอ็มอีสู้บาท

ธปท.ร่วมกับสสว.-สมาคมธนาคารไทย เตรียมชงครม.ช่วยลูกค้าเอสเอ็มอีรายเล็กป้องกันความเสี่ยงค่าเงินบาทแข็ง จากปัจจัยภายนอกกระทบ คาดสิ้นปีเกินดุลลดลงเหลือ 9% ของจีดีพี

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตอนนี้ธปท.ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กในการบริหารความเสี่ยงค่าเงินที่มีความผันผวน หรือการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) โดยอยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในเร็วๆ นี้

[caption id="attachment_152599" align="aligncenter" width="380"] วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธปท.[/caption]

สำหรับมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะช่วยให้ผู้ประกอบการรายเล็กสามารถ ล็อกเรตอัตราแลกเปลี่ยนได้ โดยจะช่วยลดค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูงให้ถูกลง และเป็นการใช้เครื่องมือที่ไม่กินเงินทุน หรือวงเงินกับธนาคาร เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยง (Forward) จากเดิมจะต้องใช้วงเงินหรือมีหลักทรัพย์คํ้าประกัน แต่มาตรการที่จะออกมาใหม่นี้ ผู้ประกอบการจะได้รับค่าธรรมเนียมที่ถูกลง และไม่ต้องมีเรื่องของหลักทรัพย์คํ้าประกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการคิดว่าการทำป้องกันความเสี่ยงเป็นเรื่องปกติ

นายวิรไท กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่านั้น เกิดจากหลายปัจจัย คือ 1. ความมั่นใจของเศรษฐกิจ มุมมองของนโยบายและปัญหาการเมืองในสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรและเยน และ 2. เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศบางรายการเข้ามาในประเทศ และ 3.เกินดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งมีเงินไหลเข้ามากกว่าเงินไหลออก คาดว่าปีนี้การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจะน้อยลงเหลือ 9% ของจีดีพี จากปัจจุบันอยู่ที่ 12% ของจีดีพี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560