ประธานเชฟรอนเอเชียแปซิฟิก ประกาศความพร้อมร่วมประมูลแหล่งปิโตรเลียมหมดอายุ ยันเพื่อคงการผลิตให้ต่อเนื่องในแหล่ง เอราวัณ ถือเป็นสัญญาณบริษัทแม่ ยังให้ความสำคัญไทยลงทุนต่อเนื่อง
นายสตีฟ กรีน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนเอเชียแปซิฟิกสำรวจและผลิต จำกัด เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนไทยระหว่างวันที่ 17-18 สิงหาคมนี้ เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ว่า จากที่กระทรวงพลังงานเปิดให้มีการประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่จะหมดอายุในช่วงปี 2565-2566 โดยมีในส่วนของเชฟรอนในแหล่งเอราวัณ แปลง 11-13 ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2565 นั้น
โดยทางบริษัทแม่ของเชฟรอน มีความพร้อม และอยู่ระหว่างการเตรียมการเข้าร่วมในการประมูลแหล่งสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุ เพื่อคงความต่อเนื่องในการผลิตพลังงาน พัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย และเป็นความมุ่งมั่นที่จะลงทุนในระยะยาวในประเทศ
ทั้งนี้ จากการดำเนินงานในไทยตลอดระยะเวลา 55 ปี ที่ผ่านมา เชฟรอนได้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการสำรวจ ขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทย โดยจะเห็นได้จากที่ผ่านมาเชฟรอนได้ว่าจ้างบริษัท Shelf Drilling หนึ่งในผู้นำการให้บริการงานด้านขุดเจาะ เพื่อมาดำเนินงานด้านการขุดเจาะปิโตรเลียมในบริเวณพื้นที่แปลงสัมปทานอ่าวไทย
โดยแท่นขุดเจาะกระทงนี้ ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการขุดเจาะที่จะช่วยให้การทำงานขุดเจาะ มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีความรวดเร็ว และสามารถช่วยลดต้นทุนการขุดเจาะลงได้มาก
นอกจากนี้ เชฟรอนยังมีผลการดำเนินงานด้วยมาตรฐานและสถิติด้านความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือและความรับผิดชอบที่ได้รับการยอมรับ ทั้งยังมุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนาสังคม มาโดยตลอด
ปัจจุบันแหล่งเอราวัณมีเชฟรอน เป็นผู้ดำเนินงาน ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 71.25%, บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซ์พลอเรชั่น จำกัด 23.75% และ ปตท.สผ. 5% โดยการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมครั้งนี้ คาดว่ากระทรวงพลังงานจะเปิดทีโออาร์ได้ในเดือนตุลาคมนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560