ลลิลฯปรับแผน ยึดทำเลทางด่วน
ลลิลยันอสังหาฯเปลี่ยนโฉมแน่ ชี้มีสัญญาณร่วมลงทุนต่างประเทศเพิ่มแต่ยังมองเศรษฐกิจไทยเคลื่อนตัวรับแรงกระตุ้นจาก แผนลงทุนภาครัฐ สุดปลื้มผลงานไตรมาส 2 รับรู้รายได้ 883 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ 171 ล้านบาท
นายชูรัชฎ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงที่เหลือปี 2560 ว่า ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนโฉมไปแน่เหตุมีสัญญาณความร่วมมือกับทุนต่างประเทศมากขึ้น จับตารายกลางรายย่อยเร่งบริหารความเสี่ยงรองรับไว้ก่อนโดยพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลลลิลได้จัดไว้ในแผนธุรกิจที่ยังเน้นพัฒนาเกาะแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ทางด่วน ถนนตัดใหม่ ตั้งแต่แนวถนนพหลโยธินที่รองรับบีทีเอส โครงการที่ซอยเพชรเกษม 77 เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยาย เช่นเดียวกับโครงการช่วงหลังศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู
สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดรุกตั้งแต่ยังไม่มีโครง การแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งลลิลถือได้ว่ามีจุดขายด้านควอลิตี้ลิฟวิ่ง โดยต้นปีนี้เปิดโครงการในโซนนิคมอมตะนครไปแล้ว ปลายปีนี้ยังรุกในโซนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยเฉพาะทำเลเกาะแนวทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกที่ลลิลยังเห็นช่องว่างทางการรุกตลาดในขณะนี้
“ปีที่ผ่านมาจะพบว่ารุกเปิดโครงการในพื้นที่นนทบุรีเพราะมองว่าเป็นการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยใหม่รองรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นฮับของการคมนาคมแห่งใหม่ การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมยังตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโซนดังกล่าวได้ ซึ่งลลิลยังเกาะตามแนวระบบขนส่งมวลชนของภาครัฐ โดยผลประกอบการในรอบ 6 เดือนแรกปี 2560 มียอดรับรู้รายได้รวม 1,545 ล้านบาท ขยายตัวราว 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 และมีผลกำไรสุทธิที่ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 17%”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560
นายชูรัชฎ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงที่เหลือปี 2560 ว่า ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนโฉมไปแน่เหตุมีสัญญาณความร่วมมือกับทุนต่างประเทศมากขึ้น จับตารายกลางรายย่อยเร่งบริหารความเสี่ยงรองรับไว้ก่อนโดยพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลลลิลได้จัดไว้ในแผนธุรกิจที่ยังเน้นพัฒนาเกาะแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ทางด่วน ถนนตัดใหม่ ตั้งแต่แนวถนนพหลโยธินที่รองรับบีทีเอส โครงการที่ซอยเพชรเกษม 77 เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยาย เช่นเดียวกับโครงการช่วงหลังศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู
สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดรุกตั้งแต่ยังไม่มีโครง การแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งลลิลถือได้ว่ามีจุดขายด้านควอลิตี้ลิฟวิ่ง โดยต้นปีนี้เปิดโครงการในโซนนิคมอมตะนครไปแล้ว ปลายปีนี้ยังรุกในโซนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยเฉพาะทำเลเกาะแนวทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตกที่ลลิลยังเห็นช่องว่างทางการรุกตลาดในขณะนี้
“ปีที่ผ่านมาจะพบว่ารุกเปิดโครงการในพื้นที่นนทบุรีเพราะมองว่าเป็นการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยใหม่รองรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นฮับของการคมนาคมแห่งใหม่ การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมยังตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโซนดังกล่าวได้ ซึ่งลลิลยังเกาะตามแนวระบบขนส่งมวลชนของภาครัฐ โดยผลประกอบการในรอบ 6 เดือนแรกปี 2560 มียอดรับรู้รายได้รวม 1,545 ล้านบาท ขยายตัวราว 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 และมีผลกำไรสุทธิที่ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 17%”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560