บิ๊กอสังหาฯโชว์รายได้ครึ่งทางปี 60 กำไรยังดีแม้รัฐไม่มีมาตรการกระตุ้น

22 ส.ค. 2560 | 23:10 น.
บิ๊กอสังหาฯสรุปครึ่งทางปี 2560 รายได้ยังเติบโตถึงแม้ไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยอัดฉีด ศุภาลัย ชี้รายได้ไม่ใช่เครื่องชี้อนาคตตลาด ให้ดูที่ยอดขาย บ่งบอกรายได้ในอนาคต พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค แจงรายได้จากอสังหาฯไม่ได้ร้ายแรง เพียงแค่ไม่มีสินค้าพร้อมโอนในไตรมาส 2

แม้จะปิดฉากไตรมาส 2 ปี 2560 ไปร่วม 2 เดือนแล้ว แต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาด หลักทรัพย์ฯ ก็เพิ่งทยอยรายงานผลประกอบการประจำงวด พร้อมสรุปครึ่งปีแรกด้วย ส่วนใหญ่มีผลประกอบการที่ดี หลายบริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้อย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ที่เป็นผู้นำตลาด ซึ่งมีสินค้าหลากหลายระดับราคาเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม ขณะที่บริษัทรายกลางและเล็กค่อนข้างเหนื่อย ถือว่าภาพรวมตลาดอสังหาฯครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้มีลักษณะ โตกระจุก แย่กระจาย

ถ้าหากเปรียบเทียบผลการดำเนินงานในปีนี้กับปีที่ผ่านมา ทั้งรายได้จากการขายอสังหาฯ หรือยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย รายไตรมาสของปี 2560 จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงยอดรวมช่วง 6 เดือนแรกด้วย เนื่องจากช่วงต้นปี 2559 มีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าธรรมเนียมการจดจำนองเหลือ 0.01%

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทมีรายได้จากการโอนกรรม สิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ 5,909 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 319 ล้านบาท คิดเป็น 5% โดยเป็นรายได้จากการโอนกรรม สิทธิ์บ้านกับทาวน์เฮาส์ 55% และ 45% อาคารชุด สาเหตุหลักคือเดือนเมษายน 2559 ยังอยู่ในช่วงที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเร่งโอน
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปีนี้ รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ 3,804 ล้านบาท ถือว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ในไตร?มาส 2 เพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า แม้ไม่มีมาตรการกระตุ้นลูกค้าก็มีความยินดีที่จะโอนกรรมสิทธิ์

แม้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 2 จะลดลง แต่บริษัทเชื่อมั่นว่าในช่วงไตรมาส 3-4 จะมีอัตราการเติบโตอย่างแน่นอน เนื่องจากมียอดรอรับรู้รายได้จากอาคารชุดถึง 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ในส่วนของโครงการแนวราบมียอดรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสินค้าสร้างเสร็จพร้อมโอน จึงไม่ใช่เรื่องน่าวิตกกังวล

MP29-3289-A “เรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์ไม่ใช่สิ่งที่จะสะท้อนสภาพตลาดในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากยอดรับรู้รายได้ส่วนใหญ่จะเป็นรายได้จากการขายอาคารชุดเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและมารับรู้รายได้ในปีนี้ แต่สิ่งที่จะฉายภาพตลาดในช่วงที่เหลือของปีได้ดีที่สุดคือ ยอดขาย และในช่วงที่ผ่านมาหลายบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สำหรับบริษัทในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถือเป็นเดือนที่บริษัทมียอดขายสูงสุดคือ 1,800 ล้านบาท จากเดิมเคยทำยอดขายได้สูงสุด 1,500 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าตลาดมีการฟื้นตัว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลว่ารายได้ในอนาคตจะไม่เป็นไปตามเป้า”

ด้าน นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กำไรที่ลดลงในไตรมาส 2 มาจากรายได้จากการโอนกรรม สิทธิ์ลดลงนั่นเอง แต่ก็ถือว่าไม่มาก ยังมีกำไรขั้นต้นใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา

“การที่ยอดรับรู้รายได้ลดลง เป็นผลมาจากสภาพตลาดที่ชะลอตัว ประกอบกับบริษัทไม่มีโครงการอาคารชุดสร้างเสร็จพร้อมโอนในไตรมาส 2 มากนัก มีเพียงโครงการเมโทร สกาย ประชาชื่น เท่านั้นที่เป็นโครงการใหม่ ซึ่งมียอดโอนเพียง 500 ล้านบาท ที่เหลือ 1,000 ล้านบาทจะทยอยโอนในไตรมาส 3 ปี 2560 นอกนั้นเป็นโครงการต่อเนื่องจำนวน 14 โครงการ”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560